• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยแนะนําวิธีการดูแลรักษารถยืนยาวทนทานไม่เสียหนักด้วยครับ  (อ่าน 4401 ครั้ง)

    • บุคคลทั่วไป
    คือว่าไปให้เต้นช่วยตีราคารถโฟล์กเวนโต้ของแฟนปี95เต็นตีราคาให้200000-220000บาททําใจขายไม่ได้ก็เลยจะเก็บไว้ขับต่อแต่กลัวว่ามันจะเสียอีก ขนาดคันนี้เข้าศูนย์ทุก10000ก.ม.ก็ยังเสียบ่อยๆแล้วก็ซ่อมแพงๆจนแฟนเขาหมดกําลังใจ+ตังค์ ก็เลยอยากขอคําแนะนําจากท่านสมาชิกในการดูแลรักษารถโฟล์กให้ทนทานด้วยครับ
    ป.ลใอดีตผมขับฮ้อนด้าไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลยแต่พอมีแฟนขับโฟล์กต้องหาความรู้ไว้มากๆเพราะเชื่อใจศูนย์ไม่ได้ครับ

    [ 1 พ.ย. 2543 , 19:11:38 น

    อนุรัตน์

    • บุคคลทั่วไป
    เห็นราคาแล้วใจแป้วเลย
    2 พ.ย. 2543 , 07:11:43 น

    ชยา

    • บุคคลทั่วไป
    พอมีข้อมูลเพิ่มเติมมั้ยครับ ว่าซ่อมอะไรแพงๆ เผื่อมีแนวทางให้คำแนะนำ
    2 พ.ย. 2543 , 07:27:35 น

    แผน

    • บุคคลทั่วไป
    อาการที่ซ่อมแพงก็มีดังนี้ครับ
    1.เบรคเช็คตามระยะทุกครั้งพอล่าสุดเข้าไปบอกว่าผ้าเบรคหมดจนจานเบรคพังต้องเปลี่ยน แม่ปั๊มเบรคหลังก็ต้องเปลี่ยน ลูกยางเบรค ผ้าเบรคหน้าหลัง ครับ พังขนาดดนี้ไม่รู้จะเก็บค่าเช็คเบรคทําไมทุกหมื่นกิโล
    2.พวกท่อแนําต่างๆ+ท่อนํามันวันดีค์นีก็แตกท่อนํามันอันละ900บาทเชี่ยวนะครับผมเลยเอาของเบนฑ์ใส่แทน 50บาทจะมีปัญหาหรือไม่ครับ
    จริงๆแล้วอยากทราบวิธีดูแลเบื้องต้นไม่ให้มันเสียบ่อยๆทุกอาทิตย์ต้องเช็คอะไรบ้างครับเพราะพอครบ100000ก.ม.ทุกอย่างเหมือนมันเสื่อมไปหมดเลยครับ ส่วนวิธีซ่อมบางอยางพอจะทราบวิธีบ้างเป็นบางจุดแล้วครับ เช่นต้องเติมนํามันยี่ห้ออะไรไม่ให้กัดพวกท่อนํามัน ต้องอุ่นเครื่องหรือเปล่า เบรคต้องเช็ดทุกกี่อาทิตน์ นํามันเกียร์ธรรมดาต้องเปลี่ยนทุกกี่ก.ม หัวเทียนต้องเปลี่ยนเมื่อไรครับวิธีดูแลรักษาพวกขอบยาง ท่อยางต่างๆ ปั๊มติ๊กเป๊นต้น คําถามพวกนี้ศูนย์บอกไม่ตรงกันซักทีเลยสับสนครับ จุกจิกรู้อย่างนี้แฟนบอกว่าน่าจะฮอนด้าดีกว่า ราคาไม่ตก ไม่จุกจิก(ตอนแรกเขาเห็นเครื่องโล่งๆก็เลยคิดว่าจะทนเหมือนรถเต่าก็เลยซื้อมา). แต่ผมกลับรู้จักผู้คนมากเพราะขับโฟล์กเหมือนกันเป็นสังคมที่ยี่ห้ออื่นไม่มี ก็ดีไปอีกแบบครับ

    2 พ.ย. 2543 , 09:18:21 น

    โป้ง

    • บุคคลทั่วไป
    ที่เยอรมัน โฟล์คเป็นรถที่ทนทานยี่ห้อหนึ่งแต่ทำไมในเมืองไทยไม่ค่อยสมคำเล่าลือเท่าไหร่นัก เป็นเพราะตัวรถหรือเป็นเพราะศูนย์หว่า?
    2 พ.ย. 2543 , 13:11:36 น

    แผน

    • บุคคลทั่วไป
    นั้นนะซิครับ หรือรถรุ่นแรกยังไม่ได้ปรับให้เหมาะกับเมืองรร้อนก็ไม่ทราบ
    2 พ.ย. 2543 , 17:16:38 น

    ชยา

    • บุคคลทั่วไป
    1. เรื่องเบรคเป็นเรื่องที่พูดยากครับ เพราะการที่มันจะสึกมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการใช้งาน และถ้าปล่อยจนผ้าเบรคหมด ก็อาจจะทำให้จานเบรคเสียได้
    2.ถ้าเป็นท่อน้ำมันหรือกันก็น่าจะไม่เป็นอะไร ผมไม่ทราบว่ารถคุณเป็นหัวฉีดหรือไม่ ถ้าใช่แรงดันน้ำมันจะมากกว่าปกติ ต้องระวังด้วย
    3. ผมว่าเรื่องใหญ่ที่ทำให้รถในกรุงเทพพังเร็ว น่าจะเป็นเพราะถนนในกรุงเทพเหมาะกับรถ four wheel  มากกว่ารถเก๋ง เมื่อเอารถเก๋งมาวิ่ง อุปกรณ์ต่างๆจึงสึกหรอเร็ว :)
    4. อะไหล่ของโฟล์กไม่แพงเมื่อเทียบกับอะไหล่แท้ของรถญี่ปุ่น แต่รถญี่ปุ่นมีอะไหล่เทียม หรือ มือสองมาให้เลือกใช้ ทำให้เราสามารถหาอะไหล่ราคาถูกกว่ามาใช้ในกรณีที่จำเป็นได้
    5. น้ำมันที่ไม่กัดท่อน้ำมัน หมายถึงอะไรครับ

    3 พ.ย. 2543 , 21:42:15 น

    bomb

    • บุคคลทั่วไป
    เรื่องนี้ผมก็คอยศึกษามาตลอดกว่าจะดีอ่วมไปเหมือนกัน  การที่เราใส่น้ำยาหม้อน้ำไม่ใช่ว่าจะใส้ของยี่ห้ออะไรก็ได้  เจาะจงต้องเป็นของvwเท่านั้น เพราะมันจะไม่ทำให้ท่อยางเสีย และตาน้ำของเครื่องยนต์  อย่างผมใช้ vento 94 ในคู่มือบอกว่าให้ใช้น้ำยา เบอร์ G 11 เติมล้วนๆเลยไม่ต้องผสมน้ำ (ให้อ่านในคู่มือที่มากับรถแล้วจะเข้าใจ  อ่านอย่างละเอียด) เพราะเห็นมาเยอะแล้วเอาน้ำยาอื่นใส่  ตอนแรกยังไม่มีอะไร แต่ใช้สักหลายปีพังฉิบหายหมด  เวลาใชแล้วต้องทำใจครับ  เพราะศูนย์บริการห่วยมาก ช่างก็ไม่เป็น  อยากให้ทาง vw ทำเหมือน bmw บ้างจังไม่ต้องไปผ่านดีเลอร์ไอ้ยนตร์กิจเนี่ย  (ไอ้ฉิบหาย)
    19 พ.ย. 2543 , 18:38:34 น

    passat

    • บุคคลทั่วไป
    ไอ้รถจริงๆ มันไม่เสียหรอกบางที แต่ช่างมันบอกว่าเสีย รู้ไม่ทันโดนหรอกทุกทีนะระวัง เวลาเปลี่ยนอะไหล่ขอของเก่าไว้ด้วย ถ้าเช็คดูก่อนว่าเสียจริงค่อยเปลี่ยน ศูนย์ volk ชอบย้อมลูกค้า เมื่อไหร่เขาจะจัดการกับระบบห่วยๆของยนตรกิจเสียที เบื่อ ตัวรถดี แต่ศูนย์ห่วยครับ
    9 ก.พ. 2544 , 00:58:27 น

    • บุคคลทั่วไป
    ผมมีความรู้สึกว่าศูยนที่เข้า ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยครับ ผมเสียเงินเกือบครึ่งแสน ไม่มีอะไรดีเลย 1.ฝากครอบเครื่องปะเกนรั่วเปลี่ยน วิ่งได้พันกว่าโล รั่วอีกแล้ว 2.เบรคบอกว่าหมด เปลี่ยนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีขึ้นเลย ถามยังไม่เจียรจานให้ด้วย รู้ว่าจานสึก 3.เสียงดังที่ล้อ อึดๆเมื่อออกตัว(autoเข้าเกียรเหยียบเบรคแล้วออกตัว) บอกให้ผมเปลี่ยนเบรค ผมก็เปลี่ยน มัน ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
    สุดท้ายนี้ ผมอยากรู้ว่า ไปเรียนซ่อมรถเยอรมันที่ได้ได้ครับ (อู่ Goodwill ที่ผมเข้าซ่อมอย่าไปนะครับ อยู่ถนน จรัญฯ)

    2 ก.ค. 2550 , 16:53:15 น

    • บุคคลทั่วไป
    ผมมีความรู้สึกว่าศูยนที่เข้า ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยครับ ผมเสียเงินเกือบครึ่งแสน ไม่มีอะไรดีเลย 1.ฝากครอบเครื่องปะเกนรั่วเปลี่ยน วิ่งได้พันกว่าโล รั่วอีกแล้ว 2.เบรคบอกว่าหมด เปลี่ยนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีขึ้นเลย ถามยังไม่เจียรจานให้ด้วย รู้ว่าจานสึก 3.เสียงดังที่ล้อ อึดๆเมื่อออกตัว(autoเข้าเกียรเหยียบเบรคแล้วออกตัว) บอกให้ผมเปลี่ยนเบรค ผมก็เปลี่ยน มัน ก็ยังเป็นเหมือนเดิม
    สุดท้ายนี้ ผมอยากรู้ว่า ไปเรียนซ่อมรถเยอรมันที่ได้ได้ครับ (อู่ Goodwill ที่ผมเข้าซ่อมอย่าไปนะครับ อยู่ถนน จรัญฯ)

    2 ก.ค. 2550 , 16:55:10 น

    • บุคคลทั่วไป
    ผมต้องการเรียนซ่อมรถยุโรบผมจบม.3มีที่ไหนให้ผมฝึกหัดบ้างไหมครับผมอยู่ที่รังสิตครับ
    19 ก.ค. 2550 , 21:59:07 น

    bunn

    • บุคคลทั่วไป
    เปิดแล้ว!!!
    หลักสูตรอบรมสอนซ่อมรถยนต์และซ่อมเกียร์อัตโนมัติ

    เปิดสอนแล้วครับ 3 หลักสูตร
    พื้นฐานของอาชีพการประกอบอาชีพอิสระด้วยการเริ่มต้นอย่างถูกต้องและมีหลักการ ครบทั้งด้านเทคนิดการซ่อม การตลาด และการเงิน ท่านที่มีใจรักในงานซ่อมรถยนต์หรือต้องการอาชีพที่มีรายได้ มีความเป็นอิสระ หลักสูตรนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานมาก่อน ท่านสามารถสมัครเข้าเรียนได้แล้ววันนี้ตามรายละเอียด
    1 หลักสูตร ซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 1
    2 หลักสูตร ซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 2
    3 หลักสูตร ซ่อมเกียร์อัตโนมัติพื้นฐาน 1  

    โดยมีรายละเอียดของหลักสูตรดังนี้
    1 หลักสูตร ซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 1
    เนื้อหาประกอบด้วย พื้นฐานของการเป็นช่างซ่อมรถมืออาชีพ การจัดการตั้งศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมอิสระ การต้อนรับ ลูกค้าสัมพันธ์ การเขียนรายงาน การเก็บประวัติการซ่อม เครื่องมือและอุปกรณ์ การซ่อมและการบำรุงรักษาต่างกันอย่างไร พื้นฐานความปลอดภัยของการทำงาน พื้นฐานรถยนต์ ระบบเครื่องยนต์ ระบบเชื้อเพลิง ระบบบังคับเลี้ยว ระบบส่งกำลัง และระบบเบรค ABS รวมชม.ฝึกงานและปฎิบัติจริง

    2 หลักสูตร ซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 2
    เนื้อหาต่อเนื่องจากหลักสูตรพื้นฐาน 1 ประกอบด้วย พื้นฐานระบบช่วงล่าง ล้อและยาง ระบบไฟฟ้าและอิเลคโทรนิคส์ในรถยนต์ ระบบปรับอากาศ การวิเคราะห์ความเสียหายในระบบเกียวเนื่อง พื้นฐานการอ่านและศึกษาค้นคว้า ต่อเนื่องในรายละเอียดเฉพาะรุ่น เฉพาะยี่ห้อ เฉพาะระบบ ที่สามารถสร้างรายได้ดีในอนาคต การสั่งซื้ออะไหล่ แหล่งข้อมูลอะไหล่และการจัดการสำรองคลังอะไหล่ และระบบสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน การตลาดของอู่ซ่อมรถยนต์
    3 หลักสูตร ซ่อมเกียร์อัตโนมัติ พื้นฐาน 1
    เนื้อหาประกอบด้วย ทำไมต้องเลือกเรียนซ่อมเกียร์อัตโนมัติ การตลาดและลูกค้าอยู่ที่ไหน พื้นฐานของเกียร์อัตโนมัติ ระบบ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ( Torque Convertor) ระบบเกียร์ภายใน ( Gear Trains ) ระบบไฮโดรลิค ( Hydraulic) ระบบไฟฟ้าของเกียร์อัตโนมัติ ( Electrical & Electronic )
    ระยะเวลาเรียน
    1 จำนวนชม.เรียน 150 ชม.
    2 รอบการเรียน ทุกวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 18.30-20.30 น หรือ วันอาทิตย์ 9.00-16.00น
    3 รวมชม.ฝึกงาน 30 ชม. แล้ว
    4 ระยะเวลาเรียนแต่ละหลักสูตร 4 เดือน

    อัตราค่าเล่าเรียน
    ที่ หลักสูตร อัตราค่าเล่าเรียน
    1 การซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 1 5,000
    2 การซ่อมรถยนต์พื้นฐาน 2 5,000
    3 การซ่อมเกียร์อัตโนมัติพื้นฐาน 1 8,000

    เอกสารการสมัครเรียน
    1 รูปถ่าย 1” 4 รูป
    2 สำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด
    3 สำเนาทะเบียนบ้าน 2 ชุด
    4 ค่าลงทะเบียนการสมัครเรียน 500 บาท

    สนใจกรุณาติดต่อ
    ฝ่ายการฝึกอบรม
    สถาบันช่างซ่อมรถยนต์และเกียร์อัตโนมัติแห่งประเทศไทย
    30/283 หมู่ 6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ 10210
    โทร 0 2954 7488



    18 ก.ย. 2550 , 09:34:52 น

    spy

    • บุคคลทั่วไป
    ถ้าสัก 1500 ก็หน้าเรียนนะครับ แย่จัง
    ต้องทำงานหาเงินซ่อมรถ
    ค่าเรียนซ่อมยังแพงอีก
    ไม่มีเวลาด้วย

    6 พ.ย. 2550 , 23:00:01 น