เมื่อรถ กอล์ฟ/เวนโต้ ของเรา ใช้งานมาได้สักประมาณ 150,000 กม. ก็อาจจะเกิดการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องออกมาจากเครื่องยนต์ ทำให้ระดับน้ำมันเครื่องพร่องหายไปได้เอง จุดที่มักจะเกิดก่อน คือรั่วออกมาทางปะเก็นฝาครอบวาล์ว ที่ด้านบนของเครื่องยนต์
ซึ่งมีรายละเอียดการตรวจสอบและเปลี่ยนปะเก็นใน
Repair&Maintenance ชื่อเรื่องเดียวกัน แต่หากตรวจสอบแล้วไม่พบว่าปะเก็นฝาครอบวาล์วรั่ว คราวนี้ก็ต้องมุดลงไปตรวจหาสาเหตุแห่งการรั่วซึมกันจากใต้ท้องรถ
การตรวจสอบจากใต้ท้องรถ จะทำได้ง่ายมากถ้าหากสามารถตีสนิทกับเด็กปั๊มน้ำมันเจ้าประจำ และขอเอารถไปจอดคร่อมหลุมถ่ายน้ำมันเครื่อง แล้วเราก็ถือไฟฉายเดินลงไปส่องดูด้วยตัวเอง จุดที่ควรสังเกตุก็คือบริเวณรอบๆ ขอบอ่างน้ำมันเครื่อง ที่จะประกบเข้ากับด้านล่างของตัวเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องที่เป็นแผ่นยางคั่นกลางอยู่ สาเหตุของการรั่วซึมก็คือเนื้อยางหมดอายุ หรือแข็งตัวจากความร้อน และอื่นๆ ทำให้ขาดความยืดหยุ่นจึงไม่สามารถแนบสนิทกับขอบอ่างน้ำมันเครื่องและขอบด้านล่างของตัวเครื่องยนต์
ได้ น้ำมันเครื่องจึงรั่วซึมออกมาจากบริเวณรอยประกบนี้
เมื่อลงไปมองย้อนกลับขึ้นมาจากด้านล่างของเครื่องยนต์ จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์วางเอียงให้ส่วนบนทำมุมเอนมาทางด้านหลัง ไม่ได้วางตรงๆ ตั้งฉากกับพื้น การที่เครื่องเอียงนี้ส่งผลให้ขอบอ่างน้ำมันเครื่องพลอยเอียงตามไปด้วย และถ้าหากมีน้ำมันเครื่องอยู่ข้างใน ระดับน้ำมันเครื่องจะท่วมปะเก็นตามแนวยาวด้านหลังเครื่องยนต์ ในขณะที่ปะเก็นด้านหน้าเครื่องยนต์จะลอยพ้นขึ้นมา ดังนั้นหากปะเก็นหมดอายุและจะเกิดการรั่วซึม ก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดที่ด้านหลังมากกว่าด้านหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณที่เครื่องยนต์จะไปต่อกับเกียร์
ในรถของผมเอง การรั่วซึมยังเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่ที่สังเกตุเห็นเพราะเห็นหยดของน้ำมันที่ซึมออกมาตามขอบปะเก็น แล้วไหลตามขอบอ่างไปเกาะรวมกันเป็นติ่ง ทำท่าจะเป็นหินงอกหินย้อยอย่างในเพดานถ้ำที่ขอบของฝาปิด Fly Wheel ในจุดที่เครื่องยนต์ต่อกับเกียร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่อยู่ต่ำที่สุดของเครื่องยนต์ หากปล่อยทิ้งไว้เมื่อรั่วซึมมากขึ้น ติ่งของน้ำมันเครื่องก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ และจะเริ่มหยดลงพื้นจากจุดนี้
ถ้าหากคุณโชคดีจนได้ที่ เมื่อมุดลงหลุม ( ถ่ายน้ำมันเครื่อง ) แล้วบังเอิญไปจ๊ะเอ๋กับอาการนี้พอดี ก็อย่าเพิ่งตกใจเพราะมันแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ขอแนะนำในขั้นต้นว่าควรจะมุดลงไปส่องไฟฉายตรวจดูด้วยตัวเอง อย่าไว้ใจให้เด็กปั๊มลงไปดูแทนเพราะคงจะไม่มีใครคุ้นเคยกับเครื่องยนต์ในรถเราได้มากไปกว่าตัวเราเอง เดี๋ยวเด็กไปเจอหยดน้ำแอร์แล้วเข้าใจผิด เครื่องยนต์เราอาจจะถูกผ่าตัดฟรี ๆ และเมื่อแน่ใจแล้วว่าปะเก็นรั่วแหงๆ ก็ให้ใจเย็นๆ หากตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องแล้วยังมีอยู่พอเพียง มันก็จะยังวิ่งต่อไปได้อีกสักพักใหญ่ๆ เปรียบได้ดั่งตรวจเจอมะเร็ง อาการยังไม่ตายวันตายพรุ่งแต่ก็ต้องมีมาตรการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งให้แน่ชัด และหากมาตรการของคุณเหมือนกับของผม และพลพรรคชาว VW Thai ทั้งหลาย คือชอบลงมือทำเอง รถข้าศูนย์บริการอย่าแตะแล้วละก็ คงจะต้องไปซื้ออะไหล่มาเตรียมไว้ก่อน ราคาปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องในท้องตลาดอันละประมาณ 600 บาท ลักษณะเป็นปะเก็นยาง มีรูร้อยน็อต Torx ( หัวจีบ ) ขนาด T-40 จำนวน 20 ตัว รอบๆ รูร้อยน็อตมีแหวนโลหะป้องกันการขันอัดแน่นเกินไป เครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ก็มีเพียง 3 ชิ้น คือประแจแหวนขนาด 11 และ 19 มม. ไขควงหัว Torx ขนาด T-40 ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ก็ควรจะใช้ชุดสำหรับประกอบติดกับประแจทอร์ค ซึ่งสามารถตั้งค่าแรงบิดที่ต้องการได้ แต่ถ้าอับจนเครื่องมือก็คงต้องใช้ตำราแพทย์แผนโบราณ วัดแรงบิดกันเอาที่อุ้งมือนี่แหละ สำหรับผมเองนิยมตำราแพทย์แผนปัจจุบัน จึงใช้วิธีตระเวณไปยืมเครื่องมือชาวบ้านเขา ( นี่ยังดีนะที่ไม่ขออะไหล่แถมมาด้วย ไม่งั้นฟรีแย่เลย อิ อิ ... )
เมื่อเครื่องมือและอะไหล่ครบ ก็ต้องไปตีสนิทขอยืมหลุมที่ปั๊มน้ำมันเจ้าประจำ ควรเลือกช่วงเวลาที่ปั๊มไม่ค่อยมีลูกค้ามาถ่ายน้ำมันเครื่อง จะได้ไม่ต้องเกรงใจกันมาก บอกไปเลยตรงๆ ว่าจะขอยืมใช้หลุมสักชั่วโมงนึง คิดตังค์เท่าไหร่ ถ้าพูดเพราะๆ ส่วนใหญ่แล้วเขาก็จะให้ใช้ฟรี เผลอๆ มีลูกมือมาให้ช่วยอีกแน่ะ พอเอารถจอดคร่อมหลุม (พยายามคร่อมให้ชิดด้านล้อขวา) เพราะอ่างน้ำมันเครื่องอยู่เยื้องมาทางด้านนี้ มิฉะนั้นจะทำงานไม่สะดวก ก็เริ่มต้นด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.) เปิดฝากระโปรงหน้า เพื่อระบายความร้อน ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกกันคนมือบอนมา ติดเครื่องยนต์ ตอนที่เรามุดอยู่ในหลุม
2.) การเปลี่ยนปะเก็นต้องถอดอ่างน้ำมันเครื่องออกจากเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายน้ำมันเครื่องเฉพาะส่วนที่อยู่ในอ่างออกมา ถ้าต้องการนำน้ำมันส่วนนี้กลับมาใช้ เพราะยังใช้งานมาได้ไม่มาก ก็ต้องหาภาชนะเช่นแกลลอนเปล่าเตรียมเอาไว้รองรับ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไปเลย ก็ต้องมีน้ำมันเครื่องใหม่เตรียมไว้ประมาณ 3.5 ลิตร พร้อมไส้กรอง จากนั้นก็สวมวิญญาณเด็กปั๊ม มุดลงหลุมใช้ประแจแหวนขนาด 19 มม. คลายน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องถ่ายน้ำมันออกมา โดยลากถาดรองน้ำมันประจำหลุมเอามารองไว้ แต่ถ้าจะเก็บน้ำมันเอาไว้ใช้ ก็เอาภาชนะที่เตรียมมา วางรองไว้บนถาดรองน้ำมันอีกชั้นหนึ่ง แล้วรอจนน้ำมันถ่ายออกมาจนหมด เหลือเพียงหยดติ๋งๆ แล้วจึงเอาน็อตไปใส่อุดไว้ตามเดิมให้เรียบร้อย
3.) ใช้ประแจแหวนขนาด 11 มม. ถอดน็อตยึดแผ่นปิด Fly Wheel จำนวน 2 ตัว แล้วงัดออกมา แผ่นปิด Fly Wheel นี้ จะเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว อยู่ในตำแหน่งที่เครื่องยนต์ต่อกับเกียร์ ที่ต้องถอดออกก่อนก็เพราะมันบังน็อตยึดอ่างน้ำมันเครื่อง 2 ตัว ที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งเว้าเข้าไปในซอกข้างๆ Fly Wheel
4.) ใช้ไขควงหัว Torx ขนาด T-40
ทะยอยคลายน็อตยึดอ่างน้ำมันเครื่องออกมาทีละตัวจนครบ 20 ตัว
น็อตนี้ยึดเอาไว้ด้วยความแน่นเพียง 15 นิวตันเมตร ซึ่งไม่ถือว่าแน่นสักเท่าไหร่ ใช้มือเปล่าหมุนบิดออกมาได้สบายๆ แต่ถ้าตอนที่จะใส่น็อตกลับ คุณไม่มีประแจทอร์คที่ตั้งค่าแรงบิดเอาไว้ใช้ ก็ขอให้จำค่าความแน่นของตอนถอดเอาไว้ดีๆ แล้วเวลาใส่กลับก็ใส่ให้แน่นประมาณเท่ากับตอนที่ถอดออกนี้โดยเฉลี่ยทุกตัว น็อตโดยรอบ 18 ตัว จะถอดออกได้ง่าย ยกเว้นตัวที่อยู่ในซอกข้างๆ Fly Wheel จำนวน 2 ตัว ที่จะต้องบิดเอียงเครื่องมือเล็กน้อย สำหรับพวกที่มีเครื่องมือครบเป็นชุด ในตำแหน่งนี้ แนะนำให้ใช้ข้อต่อ Universal จะทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะ
5.) เมื่อถอดน็อตออกได้ 19 ตัว อ่างก็ทำท่าจะหล่นลงมาใส่หัว ถ้ามีผู้ช่วย ก็ให้ช่วยประคองอ่างเอาไว้ในระหว่างที่ถอดน็อตตัวที่ 20 ส่วนผมทำงานคนเดียวเพราะแอบไปทำตอนปั๊มปิด ก็ต้องใช้หัวดันอ่างเอาไว้พลาง ใช้มือหมุนถอดน็อตออกมาพลาง ขลุกขลักพอสมควรครับท่าน พอน็อตตัวที่ 20 หลุดออกมา ก็ต้องใช้วิชากังฟู ฉากหลบ และพลิกฝ่ามือมารับอ่างน้ำมันเครื่องที่ร่วงลงมาพอดี จากนั้นก็อุ้มอ่างน้ำมันเครื่องปีนขึ้นมาจากหลุม นำออกมาวางไว้ข้างนอก
6.) เมื่ออ่างน้ำมันเครื่องหลุดออกมาจากตัวเครื่องยนต์แล้ว ก็จะมองเห็นตับไตไส้พุงในส่วนล่างของตัวเครื่องยนต์ทั้งหมด เช่น ปั๊มน้ำมันเครื่อง, เพลาข้อเหวี่ยง, ก้านสูบ, ภายในกระบอกสูบ, และด้านล่างของลูกสูบ เป็นโอกาสอันดีที่จะเอาไฟฉายมาส่องดูสภาพความ
สึกหรอ เพื่อประเมินสภาพสังขารของมัน ว่าจะยังมีเรี่ยวแรงพาเราไปไหนๆ ได้อีกสักกี่น้ำ ในระหว่างนี้ก็จะมีน้ำมันเครื่องหยดติ๋งๆ ออกมาตามผนังด้านในตัวเครื่องยนต์โดยรอบ ถ้าไม่อยากถูกเจ้าของปั๊มท้าชก ก็ควรจะลากถาดรองน้ำมันประจำหลุมเอามารองไว้
7.) กลับมาที่อ่างน้ำมันเครื่อง จัดการลอกปะเก็นเก่าทิ้ง จะเห็นได้ว่าในบริเวณที่มีรอยรั่วซึม ปะเก็นจะมีรอยขาดหรือยางแข็ง แห้ง เกาะติดอยู่กับขอบอ่าง แกะไม่ออกง่ายๆ ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องใช้ใบมีดคัทเตอร์ค่อยๆ ขูดออก อย่างใจเย็นๆ ระวังอย่าให้ขอบอ่างเป็นรอย เมื่อขูดเศษปะเก็นออกจนขอบอ่างสะอาดดีแล้ว ก็นำอ่างไปล้างให้สะอาด (ด้วยน้ำมันเบนซิน) เช็ดให้แห้งแล้วนำอะไหล่ปะเก็นอันใหม่มาวางทาบ ซึ่งรูน็อต ทั้ง 20 รูมันควรจะตรงกันเป๊ะพอดี ถ้าเกิดแจ๊คพ็อทมีการคลาดเคลื่อนไปจากนี้ คุณก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ไปเปลี่ยนที่ร้านอะไหล่โดยด่วน เพราะระหว่างนี้ เครื่องยนต์รถของคุณมันกำลัง โนบรา อยู่ ห้ามติดเครื่องเด็ดขาด อย่าว่าแต่จะขับเลย
8.) จากนั้นก็เอาอ่างที่ทาบปะเก็นอันใหม่แล้วมุดกลับลงไปในหลุม ทำความสะอาดและขูดเศษปะเก็นออกจากขอบด้านล่างของตัวเครื่องยนต์ เหมือนกับที่ทำกับขอบอ่างน้ำมันเครื่อง เช็ดคราบน้ำมันเครื่องโดยรอบออกให้แห้งที่สุด แล้วยกอ่างพร้อมปะเก็นขึ้นประกบให้ตรงตำแหน่งเดิมทั้ง 20 รู ขั้นตอนนี้ถ้าทำคนเดียวก็ต้องใช้วิชากังฟู และเตรียมเครื่องมือต่างๆ พร้อมน็อต 20 ตัว ให้พร้อมหยิบฉวยได้ง่ายแล้วเอาหัวดันอ่างเอาไว้ มือก็จัดการใส่น็อตให้ครบ โดยขันน็อตหลวมๆ ให้พออยู่เอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งขันแน่น
9.) หากรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้จนถึงขั้นนี้ ขั้นที่เหลือก็หมูแล้วละครับ ใครที่มีประแจทอร์ค ก็ตั้งค่าแรงบิดไว้ที่ 15 นิวตันเมตร หรือ 132 นิ้วปอนด์ หรือ 11 ฟุตปอนด์ ใครที่ไม่มีก็ใช้มือเปล่าๆ นี่แหละ ค่อยๆ กวดขันน็อตสลับทีละตัวเป็นรูปกากะบาด โดยต้องการให้น็อตแต่ละตัวมีความแน่นเท่าๆ กัน (เท่าที่จะทำได้) อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเรียบร้อยทั้ง 20 ตัว แล้วก็ประกอบแผ่นปิด Fly Wheel และขันน็อตอีก 2 ตัว กลับเข้าที่
10.) คราวนี้ก็เติมน้ำมันเครื่องกลับเข้าไป ถ้าใครที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันใหม่ทั้งระบบ ก็ต้องถอดไส้กรองเดิมออก (ต้องใช้เครื่องมือถอด) แล้วสวมไส้กรองใหม่เข้าไปหมุนให้แน่นด้วยมือเปล่าๆ ตรวจสอบน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องว่าได้ขันอุดแน่นดีแล้ว จากนั้นจึงเติมน้ำมันเครื่องกลับเข้าไปประมาณ 3.5 ลิตร ส่วนใครที่จะใช้น้ำมันเครื่องเดิมที่รองเอาไว้ในภาชนะ ก็ต้องหาวิธีกรอกกลับเข้าไป ถ้าไม่อยากหกเลอะเทอะก็ใช้ขวดน้ำดื่ม เอามาตัดแล้วใช้ส่วนปากขวดเป็นกรวย ส่วนก้นขวดเป็นกระบอกตวง เวลาใช้เสร็จจะได้โยนทิ้งโดยไม่ต้องล้าง สะดวกดี เมื่อเติมเสร็จเรียบร้อย ก็วัดระดับน้ำมันเครื่องอีกครั้ง แล้วใส่ขั้วแบตเตอรี่ เก็บข้าวของ ติดเครื่องแล้วขับถอยออกมาจากหลุม และก็ระวังอย่าตกม้าตายตอนจบด้วยการถอยจนรถตกลงไปในหลุมนะครับ