[คาถาอาคม]

เมื่อวาน (1 ก.ค. 48) หยุดงาน ว่างๆไม่รู้จะทำอะไร เลยไปรื้อของในลังเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้ามาดู ได้เรื่อง เลย เจอสายไฟขนาด 10 MM ประมาณ  3 เมตร พร้อมกับ หางปลาขนาด 10 MM  (ใส่น๊อตเบอร์ 10 ได้) อีก 1 ถุง เกิดความคิดว่าเดินสายไฟเพิ่มกราวด์ให้เจ้า B4 คู่ชีพดีกว่า ก็ไปจักดารวื้อน็อตแสตสเลสมาอีก 10 ตัวพร้อมกับตัวเมียด้วย และก็ค้นในลังใส่วัสดุพวกโลหะ ได้อลูมิเนียมแผ่นมาอีก 1 อัน เพื่อทำเป็นสะพานโดยเดินสายไฟจากกขั้วลบของแบตตเตอรี่ไปยังแผ่นอะลูมิเนียม และจากแผ่นอลูมิเนียมก็ต่อสายเดินไฟตามจุดต่างๆ  จุดที่ทำการเดินกราวด์มี
1. จากขั้วลบไปยังไดชาร์จ
2. จากขั้วลบไปยังเสื้อสูบ
3.จากขั้วลบไปยังเสื้อสูบด้านข้างตรงที่ต่อกับกราวด์ของคอยล์
4.จากขั้วลบไปยังตัวเกียร์ Auto
5.จากขั้วลบไปยังคอยล์
6.จากขั่วลบไปยังที่รวมสายไปลบ (ของเดิม) ที่ใกล้ๆกับแบตเตอรี่อีกอันครับ
ตรงตัวเรือนคอมเพรสเซอร์ พิจารณาดูแล้วว่าไฟกราวด์พออยู่แล้วเลยไม่เดิน ใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมง ผลที่เห็นได้ชัดคือเวลาเปิดไฟหน้ ไฟสว่างกว่าเดิม แล้วเวลา  Kick down  เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีขึ้น ส่วนผลการขับทางไกลยังไมได้ลอง เอาไว้ขับไปต่างจังหวัดจะมารายงานให้ทราบครับ

[ 2 ก.ค. 2005 , 13:27:50 น

[pop]

เคยคิดๆอยู่ครับว่าไอ้เจ้าground wireเนี่ยมันจะได้ผลมั้ย!! ส่วนตัวคิดว่าokถ้าเป็นรถอายุ
หลายๆปีอันนี้อาจจะช่วยได้บ้างเนื่องจาก
สายไฟมันเก่า ค่าความต้านทานในสายอาจจะเพิ่มขึ้น ทำให้กระแสไฟเดินไม่สะดวก
แต่เท่าที่สังเกตบางคันออกมาจาก 0 ป้ายยัง
แดงอยู่เลย ก็เลยสงสัยครับว่าไปใส่ทำไม
ทั้งๆที่แทบไม่ได้ไปช่วยอะไรเลย สำหรับรถใหม่ๆ ส่วนใหญ่เห็นเค้าอุปทานกันไปเองทั้งนั้นเลยครับว่าแรงขึ้น แรงขึ้น งง งง
2 ก.ค. 2005 , 21:38:26 น

[คาถาอาคม]

รถใหม่ไม่จำเป็น แต่ถ้าอายุเกิน 6 ปี ควรจะทำไว้ครับ ได้การตอบสนองของเครื่องดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับพุ่งแบบจรวดนะครับ
5 ก.ค. 2005 , 16:18:15 น