ย้อนรอย...เป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาได้มาจากเพื่อนรุ่นน้องที่ใช้มามือเดียวในราคาหักคอ1.1แสน สภาพทั้งสี-เครื่อง-เกียร์ค่อนข้างดีมากเพราะดูแลมาดี สภาพไม่ช้ำเลย จะมีก๊อกๆแก๊กๆพลาสติกแตกหักบ้างบางจุดตามอายุขัย รับรถมาครั้งแรกให้ช่างกรตรวจสภาพละเอียด ช่างกรบอกแค่เปลี่ยนของเหลวกับสายพานรวม เป็นรถใช้งานทางไกลอย่างเดียวคือกท.ไปโคราชทุกเช้าวันจันทร์และเย็นวันศุกร์ ที่โคราชก็วิ่งไปบุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม จนถึงศรีสะเกษประจำ พูดง่ายๆคือวิ่งบนไฮเวย์ตลอดว่างั้นเถอะ(ที่กรุงเทพไม่ใช้ ส่วนใหญ่จะใช้แจ๊สแทนเพราะคล่องแคล่วปราดเปรียวนิ่มนวลกว่า)
ทำสิ่งแรกก็คือแอร์ เพราะเจ้าของเดิมไปแปลงอะไรมาก็ไม่รู้เย็นจัดแต่ฉุดแรงเครื่องพัดลมหมุนสปีดเดียวตลอด ให้ลุงเสริมพ่อบิ๊กแอสทำให้โดยกลับไปสู่ระบบและมาตรฐานเดิมๆทั้งหมดจ่ายไปในราคามิตรภาพกัน6.5พัน(เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์เป็นzixs..อะไรนี่แหละรวมทั้งอื่นๆเช่นติดเทอร์โมฯ) จากนั้นมาจนบัดนี้ไม่เคยยุ่งอะไรกับแอร์อีกเพราะเย็นฉ่ำไม่เคยมีอาการเสียอะไรสักอย่าง มีครั้งที่น้ำหยดนองพรมเปียกปอนทั้งคัน ไปเข้าร้านแอร์ที่แปดริ้ว ช่างดันจะรื้อล้างทั้งคันต้องเบรคไว้ว่าอย่าๆๆๆ พอดีเปิดเจอในนี้พบว่าแค่"ใช้นิ้วแยงรูแล้วทิ่มทะลวงจึ๊กๆ"หรือใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเหมือนท่านช่างเหอะบอกก็เสวร็จสรรพแก้ปัญหาได้
เรื่องซ่อมตั้งแต่รับรถมายังไม่มีอะไรให้ซ่อม มีเรื่องแป้นล๊อคครัชขาดก็เปลี่ยนใหม่2คนกับลูกน้องหมดตังค์ไป140 บาท ตอนกลางปีรู้สึกครัชจะแข็งๆก็เลยถือโอกาสยกครัช ค่าของซื้อเองที่ร้านอาแปะชัยประสิทธิ์รวม6พันถ้วน ค่าแรงอู่อ๊านซ์ที่มีช่างออดี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากออดี้เยอรมันอีกราว1.2พันบาท ครัชนิ่มเบาหวิวทันที นอกนั้นก็มียางหุ้มเพลาซ้ายตัวนอกซึ่งหาของยุ่นมาใส่พร้องยางหุ้มแร๊ครวมจ่ายไป4ร้อยกว่ามั๊ง เรื่องน่าเจ็บใจนิดๆก็คือไฟหน้าปัทม์ขาดทุกดวง ไปศูนย์ยนตกิจโคราช เปลี่ยนใหม่หมดไป7ร้อย ใช้ได้2อาทิตย์ดับเกือบหมดทุกดวงอีก(ตอนนี้เหลือดวงด้านซ้ายดวงเดียว จะดูเข็มความร้อนต้องหันไปใช้ไฟฉายเล็กๆเหมือนเดิมอีก)แถมยังทำพลาสติคดำๆที่หุ้มครอบคอพวงมาลัยแตกหักตอนนี้ใช้กาวตราช้างติดประกบไว้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าศูนย์ก็ห่วยแตกเป็นเหมือนกัน
อีกเรื่องคือตอนใหม่ๆพบว่าน้ำมันเครื่องหายจนน่าใจหาย พบวิธีแก้ในนี้บอกว่า "ยางหมวกวาล์วนะนาย" เท่านั้นแหละไปซื้อที่อาแปะเจ้าเดิมไม่กี่บาท วิ่งโล่ไปหาช่างเล็กที่ย้ายมาแถวตรงข้ามนิด้าด้านสะพานเปลี่ยนแบบไม่ต้องเปิดฝาสูบกับค่าแรงอีก8ร้อยปัญหานี้หายสนิทจนบัดนี้ ดูทีไรน้ำมันเครื่องก็อยู่ขีดMAXเช่นเดิมแบบไม่รู้จักหายไปใหนทั้งๆที่วิ่งอัดแบบสุดๆเหมือนกัน(บางครั้ง)
มาถึงเรื่องซดน้ำมันที่เป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษเวนโต้ ก็เปลี่ยนเป็นLPGในราคา1.4หมื่น เนื่องจากไม่ใช่ใช้ครั้งแรกจึงไร้กังวลไม่กลัวนู่นนี่เหมือนใครหลายคน ทำมาแล้วจะเกือบปีก็ไร้ปัญหาจุกจิก จูนเองครั้งเดียวก็ไม่เคยไปยุ่งอะไรอีกเลย จึงประหยัดสุดๆ จากเดิมที่เคยจ่ายน้ำมันเดือนละหมื่นเหลือราวเดือนละ4.5-5.5พัน ที่เหลือจึงได่ใช้เป็นค่าเล่าเรียนนักศึกษาโคราชที่ประกาศอุปการะในเงื่อนไขเบื้องต้นว่า "ยากจนแต่สวย" อ้อ เรื่องนี้เคยมีปัญหาบ้างเรื่องหม้อต้มหนาวมีหิมะขาวโพลนเกาะเต็ม ก็ทำเองโดยเปลี่ยนท่อน้ำเข้าหม้อต้มใหม่ให้เดินสะดวกแทนของเดิมที่ยาวเฟื้อยแถมหักงอ ปัญหานี้ก็เป็นอันสิ้นสุดแต่บัดนั้น วันก่อนไปถ่ายน้ำมันเครื่อง เจ้าช่างที่ปั๊มดันไปทำท่อเล็กๆที่ปลายกระปุกน้ำหัก ก็วิ่งแจ้นไปเต่าทองเกษตรซื้อลูกใหม่มาไม่ถึงพันมาใส่เอง แถมถือโอกาสเปลี่ยนตาน้ำทั้ง2ตัว หมดไปราว9ร้อยมั๊ง ทุกเรื่องก็จบหมดแบบง่ายๆไม่คยควั๊กกะตังค์ทีละหมื่นสักที เรื่องคอยล์ถามไอ้น้องเจ้าของเดิมก็เปลี่ยนของยุ่นมาตั้งแต่ปี45จนบัดนี้ยังไม่เคยส่อออาการเกเร เรื่องTPAอะไรที่อยู่ดีๆมันจะเร่งเครื่องเองโดยเฉพาะตอนสตาร์ท ก็เป็นบางครั้ง แต่รถเกียร์ธรรมดาน่ะเรื่องกล้วยๆไม่ต้องไปเปลี่ยนไปล้างอะไรหรอก เวลาสตาร์ทมันเร่งรอบสูงขึ้นมาเองก็ใส่เกียร์แล้วก็ปลอยครัชขยับนิดแล้วกดครัชลงใหม่เข้าเกียร์ว่างรอบมันก็ตกมาอยู่ปกติเองล่ะ แต่แบบนี้เกียร์ออโต้ทำไม่ได้
สรุป พอใจกับเวนโต้เกีย์ธรรมดาคันนี้ ทนมากๆๆๆๆ วิ่งทางไกลหนึบแน่นได้ฟีลลิ่งแบบเยอรมัน ท่อน้ำเคยแตกจนเครื่องดับ ถ้าเป็นรถอื่น(แม้แต่ยุโรปอย่างเรโนลต์R21ก็เถอะ รับรองฝาโก่ง แต่เวนโต้ของผมกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่จอดรอเครื่องเย็นจริงๆห้ามไปเติมน้ำใหม่ทันที จอดจนทุกอย่างปกติแล้วค่อยเปลี่ยนท่อใหม่เติมน้ำใหม่ ทุกอย่างก็ไปได้ตามปกติ ผมเป็นมาแล้ว1ครั้งที่หน้ากระทรวงมหาดไทยเลยล่ะ) ใช้มาจนบัดนี้ยังไม่เคยรู้สึกอย่างเปลี่ยนอยากขายสักครั้ง เคยใช้รถยุโรปมือสองมาก็หลายคันไม่เห็นมีคันใหนทนทานไม่จุกจิกกวนกระเป๋าตังค์เหมือนคันนี้ สภาพตอนนี้ก็ยังไม่รู้และนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร มีก็แต่กระจกหน้าที่บังเอิญจะถอดใบปัดน้ำฝนที่บังเอิญก้านหลุดมือเพราะเบียร์อาซาฮีฟาดเป๊ะเข้ากระจกแตกร้าวเป็นที่ระลึกยังไม่ได้เปลี่ยนจนบัดนี้
ใครจะว่าเวนโต้จุกจิกซ่องแพงซ่อมบ่อย วิ่งอืดกินน้ำมันก็ว่าไปเถอะ สำหรับผมรักคันนี้มากกว่ารถยุ่นปี่อีก2คันที่บ้านใช้เสียอีก...
[ 18 ก.พ. 2550 , 09:09:51 น
หัวข้อ: รายงานเวนโต้95จะเข้าขวบปีที่2ที่ได้มา (อ่าน 327 ครั้ง)
