VW-Thai Club House
General Category => VW-Thai Club House => ข้อความที่เริ่มโดย: ต้น ที่ เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am
-
ตามหัวข้อน่ะครับ ออฟชั่นเหมือนกันมั้ยครับ แล้วเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เกียร์ ระบบแอร์ ตัวไหนดีกว่ากัน แล้วเครื่อง 2.4 กับชุดเกียร์ ใช่ตัวเดียวกับของ A4 มั้ย รุ่นไหนกินน้ำมันมากกว่ากันครับ เน้นวิ่งทางไกลตัวไหนดีกว่า เพราะเห็นว่าราคาต่างกันไม่มาก อีกข้อครับ เครื่อง 2.4 ใช่ V6 มั้ยครับ แล้วมีกี่วาวล์ต่อสูบ ทั้งสองตัวนี้กินน้ำมันโหดมั้ยครับ + ค่าบำรุงรักษาสูงมั้ยครับ ถามยาวไปหน่อยแต่เห็นว่ารถใหญ่นั่งสบายดี ราคาย่อมเยาว์กว่า A4 เลยชอบครับ ขอบคุณครับ
[ 6 ต.ค. 2005 , 16:50:25 น
-
ขอถามเพิ่มอีกหน่อยนะครับ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ถ้าซื้อมาเห็นรถปี 97 ประกาศขายอยู่ 380000 ราคานี้ซื้อได้มั้ยครับ ดูจากรูปสภาพดีมาก แต่ยังไม่ได้ไปดูตัวจริงเลย แล้วถ้าเทียบความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับ B5 ล่ะครับ เทียบกันในด้านสมรรถนะ ความแข็งแรงปลอดภัย ความทนทานของเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ค่าบำรุงรักษาต่างกันมากมั้ย แล้วหาอู่นอกซ่อมยากหรือปล่าว อะหลั่ยหายากมั้ย ช่วยคิดเล่น ๆ หน่อยนะครับว่า ซื้อ A6 ปี 97 ราคา 380000กับ passat ปี 2001 ราคา 550000 ถ้าได้สภาพดีทั้งคู่ไม่ต้องซ่อมมาก ถ้าใช้ไปยาว ๆ อีกซัก 6 - 7 ปี อันไหนจะขาดทุนมากกว่าครับ คิดค่าบำรุงรักษากับค่าน้ำมันที่ต่างกันด้วยน่ะครับ เรื่องหน้าตาไม่เทียบครับ เพราะส่วนตัวชอบรูปร่างของ B5 มากกว่า ขอบคุณมากครับ ต้องคิดเยอะ ๆ หน่อยน่ะครับเพราะมีตังไม่มาก
6 ต.ค. 2005 , 18:41:54 น
-
ขออีกข้อเดียวครับ A6 ตัวนี้เสียงภายในห้องโดยสารเงียบมั้ยครับเยบกับ B5 แล้วเป็นยังไง พอดีผมใช้ท้ายเบนซ์ 1.5 ออโต้อยู่น่ะครับ อืดมากเลยทั้งต้นทั้งปลาย แล้วเสียงก็เข้ามาในห้องโดยสารดังมาก เกินร้อยขึ้นไปเริ่มรำคาญแล้วครับเกิน 130 นี่หูอื้อเลย เลยมีปมด้อยเกี่ยวกับสองเรื่องนี้อ่ะครับเลยอยากได้ที่มันดี ๆ กว่าคันเก่าเยอะ ๆ หน่อย
6 ต.ค. 2005 , 18:51:44 น
-
ตอบเฉพาะA6 เล่นตัว2.4ดีกว่า เครื่อง2.3เป็นเครื่องหัวฉีดกึ่งไฟฟ้า มันยังไม่ทันสมัยมาก เพราะฉะนั้นหากเลือกได้เลือก2.4 น่าจะwork แต่ทั้งนั้นทั้งนั้นค่าบำรุงรักษาจะค่อนข้างสูงกว่า 2.3 การเก็บเสียงบอดี้C4 ถือว่าเก็บเสียงใช้ได้ครับ แต่ถ้าเป็นA4 จะมีเสียงลมเข้าห้องโดยสารเยอะกว่ารวมทั้งเสียงเครื่องด้วยครับ
6 ต.ค. 2005 , 19:34:54 น
-
ผมว่า B5 อะไหล่จะถูกกว่านะครับ และรถยังใหม่กว่า การซ่อมก็ยังไม่มากอะไร ตัวรถก็ไม่ได้เล็กนะครับ ใหญ่กว่า A4 อีก ... ส่วนการขาดทุนส่วนตัวผมว่า อย่าไปคิดเลยครับ ขนาดซื้อป้ายแดงยังขาดทุน ลองคิดดูนะครับ B5 ซื้อมา 1.3 ล้าน ใช้มา 6 ปี ขายขาดทุน 6-7 แสน คุณซื้อแค่ 5.5 แสน ต่อให้เอาไปขายเป็นอะไหล่ ยังขาดทุนน้อยกว่าเลย เดี๋ยวนี้ต่อให้รถยี่ปุ่น ล้านกว่าบาท ใช้ไม่กี่ปีก็ขาดทุน 3-4 แสนเหมือนกันครับ อยู่ที่ตัวคุณจะคิดแบบไหนแค่นั้นเอง ผมใช้ B5 ป้ายแดงปี99 ตอนนี้หากขายคงขาดทุนมาก แต่ก็ยังไม่คิดขายครับ เพราะขายไปซื้อคันใหม่อีกก็คงขาดทุนสองต่อแน่ๆ อีกอย่างรถก็ไม่มีปัญหาอะไร วิ่งดีครับ พอดีแฟนต้องใช้รถอีกคันผมเลยซื้อรถมือสอง เปอร์โย406 ปี99 ปีเดียวกับB5เลย ราคา 3 แสน เอามาปรับสภาพอีก 2 หมื่น ใช้มาปีเศษแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ ผมว่าบางทีรถมือสองเอามาบำรุงรักษาถึงๆนี่ก็น่าสนใจดีนะครับ
6 ต.ค. 2005 , 21:33:07 น
-
A6 C4 ตัว 2.4 ดีกว่ากันครับ
6 ต.ค. 2005 , 23:39:07 น
-
A6 2.4 ถ้าสภาพสมบูรณ์ ๆ Top Speed อยู่ที่ประมาณเท่าไรครับ แล้ว B5 อยู่ที่เท่าไรครับ
7 ต.ค. 2005 , 00:50:59 น
-
ก็คงต้องมี220km/h นะครับ
7 ต.ค. 2005 , 00:54:54 น
-
ปัญหาเดียวกันเลยครับแต่ของผมจบที่ B5 แล้วหละ อิอิ ใจผมนะชอบ C4 แต่ พ่อผมนะช่อบ B5 ก็เลยต้องตามใจพ่อ ( เจ้าของเงินนี่ครับแล้วพอดีหาเจ้า C4 2.4L ดีๆไม่ได้เลยครับ )
7 ต.ค. 2005 , 01:01:33 น
-
ใช่ครับ หา 2.4 ดีกว่า แต่ตอนนี้น้ำมันแพง รถก็เริ่มเก่าแล้วซ่อมเยอะแน่นอนแถมแพงด้วย
ตอนนี้ผมใช้ A4 1.8T มาได้ 3 เดือน ตอนแรกก็มอง Passat B5 แต่ติดตรงที่เครื่อง 1.8 แรงน้อยไปหน่อย แต่ถ้ารับได้ก็โอเคเลย ยังไงก็ดีกว่า Lancer1.5 ทุกอย่างยกเว้นค่าซ่อมกับค่าน้ำมัน รถยังใหม่ วิ่งกันเยอะ หาสภาพดีๆง่าย ซ่อมถูกกว่า หาอะไหล่ง่ายกว่า สวยนาน
ไม่ต้องกลัวเรื่องขาดทุนหรอกครับ เจ้าของเก่าเขาขาดทุนเยอะกว่าคุณแน่นอน B5 ปี 2001 หาสภาพดีๆ เอามาซ่อมครบๆไม่เกิน 3-4หมื่น เกือบเหมือนรถใหม่เลย
7 ต.ค. 2005 , 01:50:17 น
-
ถะถะถะถะถะถูกต้องนะคร้าบบบบบบบ
7 ต.ค. 2005 , 03:25:35 น
-
ขอบคุณมากครับ เอารูปทั้งสองรุ่นให้แฟนดูแล้ว เธอยื่นคำขาดว่า B5 ครับ ก็คงเอา passat หล่ะครับ แต่ใจจริงอยากได้รถแรง ๆ แบบ Top Speed เกิน 200 ไว้ขับเล่นบ้าง แต่คงไม่ได้ขับเร็วบ่อยหรอกครับ แบบว่าคันเก่ามันมีปมด้อยน่ะครับ ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ
7 ต.ค. 2005 , 04:17:15 น
-
เลือกได้แล้วครับ แฟนผมเธอยื่นคำขาดว่า B5 ครับ เธอว่า C4 มันดูแก่ ก็คงเลือก passat ล่ะครับ จริง ๆ ก็ใช้รถกันแค่สองคนคงไม่ต้องใช้รถที่กว้างมาก ๆ น่ะครับ แต่ที่อยากได้ C4 เพราะอยากได้รถที่สามารถทำท็อปสปีดเกิน 200 ไว้ขับบ้างในบางครั้ง แต่ก็คงไม่ได้ขับเร็วบ่อยหรอกครับ คันเก่าผมมันมีปมด้อยน่ะ โดนแซงฉิวทุกทีเลย แล้วเจ้า B5 นี่อัดได้สุด ๆ เท่าไรครับ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันตอบมากนะครับ
7 ต.ค. 2005 , 04:23:36 น
-
ผมเคยใช้ A6 C4 2.3 แต่ขายทิ้งไปแล้ว (เพราะโดนชน) ปัจจุบันใช้ Passat B5 ครับ รถ 2 รุ่นนี้ คนละแนวกันเลยครับ A6 จะหรูหรา+ผู้ใหญ่ๆ ช่วงล่างขอบอกว่าหนึบมากกก(B5 สู้ไม่ได้ครับ) และวัสดุที่ใช้ตกแต่งนี่ดีมากๆ รถใหญ่นั่สบายครับ พวงมาลัย servotronic นี่สุดยอดแล้ว ขับง่ายมากๆ ข้อเสียคือรถ A6 C4 ปัจจุบันเริ่มก่าแล้ว คงหาสภาพสวยๆยากหน่อย
ส่วนเจ้า passat B5 จะออกวัยรุ่นๆ ขับสนุกแต่ไม่แรง(แรงบิดมาที่รอบต่ำมาก แต่แรงม้าไม่เยอะเท่าไร) ช่วงล่างเกาะตามแบบฉบับรถเยอรมัน แต่ไม่เท่า A6 C4 ครับ วัดุที่ใช้สู้ A6 C4 ไม่ได้ แต่คุณจะได้ความสดใหม่ของตัวรถ+เทคโนโลยี แผงหน้าปัทม์จะสวยมากๆตอนกลางคืน ส่วนอะไหล่ผมว่า Audi ทนกว่า VW นะ ราคาไม่หนีกันมากหรอกครับ ปัจจุบันผมยังคิดถึงเจ้า A6 C4 อยู่เลย...
7 ต.ค. 2005 , 05:12:55 น
-
รุ้สึกเหมอนกันว่าอะไหล่Audi ทนกว่าVW จริงๆ แต่ราคาก็แพงกว่าเหมือนกัน
7 ต.ค. 2005 , 13:58:36 น
-
เรียนถามคุณ Quattro ฟิลลิ่งในการขับเจ้า C4 ดีกว่า B5 มากมั้ยครับ เช่นความนุ่มนวล ความเงียบ การเกาะถนน และความสบายในการนั่งโดยสารน่ะครับ ความแรงคงไม่ต้องพูดถึง แล้วมันกินน้ำมันกว่ากันมากมั้ยครับ ส่วนต่างราคาประมาณ 150000 - 200000 สามารถชดเชยค่าน้ำมันในระยะ 5 - 6 ปีได้มั้ยครับ คือผมลองคุย ๆ กับแฟนผมแล้วน่ะครับ ว่าอยากให้เลือกรถเพื่อตัวเราเอง ได้ใช้สบาย ขับสนุก สมรรถนะดี ไม่ได้ใช้รถเพื่อให้คนอื่นมองน่ะครับ ขอบคุณครับ
7 ต.ค. 2005 , 14:01:00 น
-
พวงมาลัย servotronic เป็นยังงัยครับ มันทำงานยังงัย แล้วใน B5 หรือ A4 มีมั้ยครับ
7 ต.ค. 2005 , 14:29:04 น
-
รู้แต่ว่าservotronic มันจะแปนผันตามความเร็ว รวมทั้งพวงมาลัยจะเบามากๆๆๆ
คือเอาเป็นว่าพวงมาลัยAudi เบาที่สุดตั้งแต่ใช้มาเลยครับ สามารถใช้นิ้วก้อยหมุนพวงมาลัยได้ แต่ในทางกลับกัน ในเมื่อมมันผ่อนแรงมาก ระบบมันเลยรั่วเก่งไปหน่อย เห็นโดนทุกคัน แต่ไม่มีปัญหาครับ ซ่อมด้ายยยยยยยย
7 ต.ค. 2005 , 16:34:41 น
-
ตอบคุณต้น...
feeling ในการขับนะครับขอแยกย่อยดังนี้
ความนุ่ม+เงียบ ผมยกให้ B5 ดีกว่า C4 นิดนึงครับ (คงเป็นเพราะช่วงล่างแบบ 4-link ด้วยมั้งครับ) แต่ไม่ถึงขนาดกะต่างกันมากมาย
ส่วนเรื่องการเกาะถนน C4 หนึบกว่าอย่างเห็นไดชัดครับ ความสบายในห้องโดยสารก้อนั่งสบาย+กว้างขวางกว่า B5
อัตราการกินน้ำมัน (ในเมือง) C4 จะประมาณ 6 กม./ลิตร ส่วน B5 นี่ 7-7.5 กม/ลิตร ครับ
ส่วนต่างราคาผมว่าน่าจะเอามาชดเชยค่าซ่อมมากกว่าเพราะรถอายุเฉียดๆ 10 ปี ยังไงๆก้อต้องซ่อมครับ C4 ของผมที่เคยเสียก้อมีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง(ปั๊มติ๊ก) 13000 บาท , พัดลมไฟฟ้า 5 พันบาท แล้วก้อโบเออร์แอร์ครับ 2 พัน(รายการนี้ซ่อมครับ)ถ้าเปลี่ยนใหม่ 9 พันกว่าๆ
ส่วน B5 มีเปลี่ยนอะไหล่เล็กๆน้อยๆ เช่น หัวเทียน+สายหัวเทียน+ชาโคเบนซิน แค่นี้เองครับ (เนื่องจากรถยังใหม่อยู่ด้วยแหละครับ)
ส่วน servotronic เหมือนที่คุณ pop บอกเลยครับ คือพวงมาลัยปรับน้ำหนักอัตโนมัติตามความเร็ว (ไม่มีใน B5 / A4) ซึ่งผมชอบระบบนี้มาก เวลารถจอดนิ่งๆ+วิ่งช้าๆ ใช้นิ้วก้อยหมุนได้เลยครับ แต่พอขับเร็วๆ มันจะหนักขึ้นให้เอง ซึ่งตอนแรกที่เปลี่ยนมาใช้ B5 จะหงุดหงิดมากเพราะพวงมาลัยหนัก (เค้า set ไว้เพื่อจะได้ปลอดภัย+นิ่ง เวลาขับเร็วๆ)
ถ้าคุณหา C4 ได้ในสภาพดีจิงๆ ผมเชียร์เลยครับ แต่ต้องเป็นตัว 2.4 นะ ตัว 2.3 จะจุกจิกกว่า อีกอย่างเครื่อง 2.4 ใน C4 นี่เป็น 1 ในเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดของ Audi เลยครับ คุณจะได้ options หลายอย่างที่ B5 ไม่มี เช่น ม่านไฟฟ้าหลัง+ม่านข้างประตูหลัง+แอร์หลัง+พวงมาลัย servotronic+ไฟตัดหมอกหน้า+ลายไม้ที่แผงข้างประตูและหน้าปัทม์+เกียร์แบบซิกแซก
แต่ถ้าหาสภาพสวยจิงๆไม่ได้ก็เล่น B5 ก้อดีอีกแบบครับ ขับสนุกๆ+ดูไม่แก่+มีถุงลม 4 ใบ +หน้าปัทม์สีสันสดใส + ใช้ได้อีกยาวและไม่ต้องซ่อมมาก เพราะรถยังใหม่มาก (แนะนำให้ดู ปี 2001 ขึ้นไปนะครับ จะได้เครื่อง lot ใหม่ เรียกว่า APT ดูง่ายๆที่เลขเครื่องยนต์จะขึ้นต้นว่า APT)
ส่วนราคาอะไหล่ VW ถูกกว่า Audi แต่ในทางกลับกัน อะไหล่ Audi อายุการใช้งานนานกว่า VW ครับ แต่ยืนยันว่ารถดีทั้ง 2 คันแหละครับ ซื้อมาไม่ผิดหวังแน่ๆครับ
8 ต.ค. 2005 , 00:23:54 น
-
เคยวิ่ง B5 ที่ 190 กว่าๆครับ คิดว่าแช่ต่อคงไหลได้ถึง 200 แต่อาจนานหน่อย ...... แค่ 180 ก็เหงื่อออกมือแล้ว......กลัวจะอยู่ไม่ถึงแก่นะครับ.....ตอนนี้ก็ล็อกที่ 140 ไม่เกิน 150 วิ่งได้สบายครับ
8 ต.ค. 2005 , 00:29:46 น
-
B5 เพื่อนผมใช้อยู่ และเห็นเวลาที่B5 ไป service จะเจอ 2 รายการ ที่มักจะเสีย คือ 1. ตู้แอร์รั่ว 2. แร็ครั่ว 2 อาการนี้ผมเจอเยอะทีเดียว แต่ อย่างอื่น B5 ผมกลับไม่ค่อยเห็นมีเสียเลย ซึ่งถ้ารวมๆผมว่าเยี่ยมเลยครับ ปลาย B5 1.8 200km/h ถึงสบายๆแน่นอนครับ
8 ต.ค. 2005 , 00:58:54 น