• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ตอบ

    Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
    Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
    ชื่อ:
    อีเมล์:
    หัวข้อ:
    ไอค่อนข้อความ:

    Verification:
    Type the letters shown in the picture
    Listen to the letters / Request another image

    Type the letters shown in the picture:
    ตัวย่อรถที่เราใช้สองตัวเป็นภาษาฝรั่ง:

    shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


    สรุปหัวข้อ

    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 12:14:16 am »

    แรงดันของเหลวต่างๆในเวนโต้ช่วงมันคาบเกี่ยวกันครับ เท่าทีไปหาข้อมูลมาได้ดังนี้
    แรงดันน้ำมันเครื่อง ตามค่าเซ็นเซอร์เตือนน้ำมันเครื่องต่ำและสูง 3-13PSI หรือ 4.4-26 PSI
    แรงดันน้ำในหม้อน้ำสูงสุดประมาณ 13.3 PSIหรือ 0.9บาร์
    แรงดันเกียร ATF เฉลี่ย60 PSI ช่วงเกียรถอยหลัง อาจสวิงขึ้นไปถึง 85 PSI
    ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: ทนาย รูปหล่อ
    « เมื่อ: กันยายน 22, 2012, 04:11:08 pm »

    เคยมีพี่ช่างเหอะเคยบอกวาออยเกียร์ของเทียบมักไม่ทนระวังด้วยนะครับ
    แต่สงสัยว่าแรงดันน้ำในระบบกับแรงดันน้ำมันเครื่อง และแรงดันน้ำมันเกียร์อะไรแรงดันมากกว่ากัน ผมเชื่อว่าน้ำมันที่เข้าระบบหล่อเย็นได้ต้องมีแรงดันมากกว่าน้ำในระบบ
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 22, 2012, 12:08:28 am »

    ขอบคุณ WhitePassat ครับอย่างที่ท่านคาดไว้ยังอยากได้เดิมๆอะไหล่ ของแท้ๆ ซึ่งส่วนใหญ่รถที่ใช้มาทำแบบนี้มาตลอด
    จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มั่นใจเพราะยังพิสูจน์ได้ไม่ชัดเจนว่าออย์เกียรรั่ว เพราะวิธีที่เราตรวจสอบมันก็หนักหนารุนแรงไม่แพ้ตอนใช้งาน ถึงย่างไรก็ตามผมก็สั่งออล์ยเกียรของแท้มาลองตามที่หลายๆท่านชี้แนะมา แต่พอส่งมาถึงมันเป็นของใช้แล้วก็จึงไม่กล้าเสี่ยงส่งกลับแล้วขอของใหม่แทนซึ่งเป็นของเทียม ขนาดออล์ยเกียรของผมดูภายนอกดีกว่าทุกอย่างดูและทดสอบแล้วไม่น่าจะรั่วก็ยังไม่รู้ว่ารั่วหรือไม่
    มีข้อมูล จากของเบนซ์ซึ่งมีออล์ยเกียรหลักการเดียวกันแต่ของเขาเป็นเรื่องประเก็นฝาสูบรั่ว อีกอันหนึ่งก็เป็นของญี่ปุ่น ดูตามLinkข่างล่างครับ
    http://www.benzowner.net/forum/archive/index.php?t-26756.html
    http://www.4x4.in.th/vision11/show.php?category=vision11&No=33835
    ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: WhitePassat
    « เมื่อ: กันยายน 18, 2012, 04:35:26 pm »

    ขอส่งกำลังใจเชียร์ให้หาสาเหตุเจอโดยเร็วนะครับ ขอติดตามอ่านอย่างใกล้ชิดครับ ผมใช้บีสี่ยอมรับว่าถอดใจตั้งแต่เข้ามาอ่านในเว็บแล้วรู้ว่าถ้ารั่วจะก่อให้เกิดผลตามมาอย่างไร เลยถอดออกให้ช่างตู่ติดตั้งออยอากาศไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ได้คือความสบายใจว่าเกียร์คงไม่เจอปัญหาน้ำเข้าไปในระบบแต่ที่แถมมาคือความร้อนไม่ขึ้นสูงและการเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบขึ้น ไม่ทราบว่าสนใจแนวคิดนี้หรือเปล่า เพราะการลงทุนไม่สูงเท่าไหร่ครับ ขอให้โชคดีในการแก้ปัญหานะครับ เดาว่าคงชอบระบบเดิมๆแบบสแตนดาร์ดไม่ชอบแบบปรับแก้นะครับ.
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 11:52:32 am »

    ขอบคุณช่างเสน่ห์ที่ให้ข้อมูลดีๆครับ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปจะโทรไปปรึกษาครับ
    แต่ถ้าสมมุติว่าออล์ยเกียรรั่วเราจะรู้และทดสอบได้อย่างไรครับ เท่าทีอัดลมไป120ปอนด์ก็น่าจะเป็นวิธีทดสอบที่น่าใช้ได้แต่ทำไมไม่แสดงผลที่คาดไว้ การทดสอบน้ำมันที่ปนมาก็เป็นไปในทางน้ำมันเครื่อง ผมโพสต์รูปไว้อีกเวบหนึ่ง เวบนี้ผมไม่ถนัดอาจจะยังทำไม่เป็นใส่รูปไม่ได้สักครั้งแล้วต้องloginใหม่เรื่อยๆ วันหลังคงมีส่วนช่วยสนับสนุนเวบด้วยครับ ลืมบอกไปครับหลังสุดก่อนรื้อเครื่อง น้ำในหม้อพักน้ำล้นพ่งออกมาเลยไม่ใช่คงไม่ใช่รั่วรูน้อยๆครับ
    ขอบคุณที่สละเวลาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 11:34:03 am »

    ลองแปะภาพอีกที
    ทำไมภาพไม่ขึ้น แล้วก็พอคลิกไปที่อื่นแล้วกลีบมาแล้วกลายเป็นบุคลทั่วไปก็ต้องLogin ใหม่ทุกครั้งแล้วก็เข้าไม่ได้ต้องปิดBrowserแล้วเปิดใหม่ข้อความเดิมหายไป

    อยากรู้ว่าถ้าออล์ยเกียรรั่วเราจะทดสอบได้อย่างไร ใจอยากให้เป็นแค่ออยเกียรรั่ว ก็ลองทดสอบอีกครั้งหลังจากทำต้มยำออยเกียรไปแล้วโดยหาทางต่อลมจากปั๊มลมเข้าออยเกียรแล้วอุดไว้อีกข้างหนึ่ง จัดทำให้ทนแรงดันให้สูงๆแล้วก็ทำเหมือนช่างปะยางแช่น้ำดูฟองอากาศ
    หลังจากนั้นเริ้มอัดลมเข้าไป 30 PSI แล้วก็ 60PSI
    แล้วก็เพิ่มขึ้นถึง 90 PSI......100.........105.............110.........115
    ท้ายสุดถึงค่าที่ตั้งไว้สำหรับปั๊มลม 120....ปอนด์หรือประมาณ 8 บาร์  ก็ไม่มีฟองอากาศออกมาแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ไปทำอย่างอื่นแช่ให้ดันไว้เป็นชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าจะรั่ว ทดสอบอย่างนี้น่าจะใช้ได้หรือมีวิธีทดสอบอย่างอื่น(ข้อมูลจากที่ฝรั่งทำไว้แต่ไม่ใช่จากโรงงานบอกว่าความดันน้ำมันเกียรอยู่ประมาณ 60 PSI และช่วงเกียรถอยหลังอาจไปถึง 125 PSI) จริงๆก็รู้ว่าวิธีอัดเข้าทางทางเดินน้ำนี้จะกลับทางกัน ถ้าจะทำให้เหมือนจริงต้องอัดผ่านเข้าทางน้อตที่ยึดออล์ยซึ่งเป็นรูน้ำมันเข้าและอุดน้อตอีกข้างหนึ่งไว้ แต่การต่อจะยุ่งยากกว่าหน่อยจึงยังไม่ทำ แต่ผลน่าจะเหมือนกันถ้ามันรั่วผ่านผนังแลกเปลี่ยนความร้อน สมมุติว่าออล์ยเกียรรั่วเราจะทดสอบอย่างไรได้บ้าง หรือใครมีข้อมูลอย่างไรเชิญครับ
    ถึงตอนนี้การที่จะซื้อออล์ยเกียรมาเปลี่ยนไม่ยากแต่อยากรู้ว่าถ้ามันรั่วจริงๆเราจะทดสอบได้วิธีไหนให้ชัดเจนก่อน เอาไว้เป็นข้อมูลสำหรับการซ่อมVW
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลดีๆครับ
    ข้อความโดย: คนเล่นคลื่น
    « เมื่อ: กันยายน 15, 2012, 11:57:55 am »

    รื้อเย๊อะเกินไปครับบานปลายครับเรื่องน้ำมันเข้าหม้อน้ำรุ่นี้มีเรื่องเดียวครับคือออยล์เกียรนั่นแหละตัวปัญหาครับหาเปลี่ยนไหม่จบแน่นอนครับน่าเสียดายรื้อไปเสียเย๊อะเลย โทรปรึกษาได้ครับ 0817352471  เสน่ห์ครับ
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 14, 2012, 11:54:48 pm »

    ลองแปะภาพใหม่


    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 14, 2012, 10:30:51 pm »

    วันนี้กลับจากน้ำท่วมสุโขทัยมาถอดดูน้องเวนโต้
    ยังไม่ค่อยสนุกเท่าไรครับคือยังหาจุดรั่วไม่ได้หรืออาการยังไม่ชัดเจน
    เปิดฝาสูบออก ประเก็นฝาสูบก็ยังสวยงามไม่ผุไม่แหว่ง ไม่มีรอยขาดจนทำให้เป็นทางเชื่อมระหวางทางน้ำมันกับทางน้ำ
    ดูที่บนเสื้อสูบก็เรียบดีไม่มีรอยเชื่อมถึงกัน
    พลิกฝาสูบดูก็เรียบไม่มีร่องรอยทางลัดของน้ำจากช่องต่างๆ เช็ดออกดูก็แล้วดูอีกยังไม่เห็นทางน้ำมันรั่ว หาต่อไป
    หรือว่ามันจะแทรกไปในชั้นระหว่างประเก็นเพราะประเก็นเป็นเสตนเลสมีสองหรือสามชั้น
    หวังว่าคงไม่โชคร้ายที่เสื้อสูบหรือฝาสูบ เป็นช่องตามดทะลุเข้าหากันภายใน
    กลับไปทดสอบออยเกียรใหม่ใส่น้ำผสมสีเขียวอัดน้ำแรงดัน 30PSI พร้อมกับต้มในหม้อน้ำเดือดรอดูผล20นาที ผลก็ไม่มีน้ำสีเขียวรั่วออกมาภายนอก ถ้ามันรั่วไม่มากหรือน้อยต้องออกมาให้เห็นต้มจนจะใส่ตะไคร้น้ำปลามะนาวทานกับข้าวเย็นได้แล้วครับ
    ดูภาพตามLink ข้างล่างครับ
    http://uppicthai.com/8WD
    http://uppicthai.com/8WF
    http://uppicthai.com/8WO
     
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 10:15:20 pm »

    จะบอกว่า ถ้าจะเล่นกับฝาสูบก็เลยต้องไปหาซื้อประแจเบอร์ M12 มาเพิ่มเติมที่เชียงรายตัวละสี่ร้อยกว่า และก็ซื้อM10มาเผื่อด้วยเลย ส่วนM8มีแล้วเอาไว้ขันเพลาขับด้านที่ติดกับเกียร ถ้าราคาเครื่องมือแพงเท่าราคาที่ช่างซ่อม ผมเลือกที่จะซื้อเครื่องมือมาซ่อมเอง แล้วเราก็เก็บไว้ใช้ได้อีกหลายครั้ง 
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 09:27:04 pm »

    นอกเรื่องแต่เห็นว่าดีครับ
    คุณแม่เป็นพระอรหันต์ในบ้าน
    แม่ผมอายุ90ผมลูกคนสุดท้อง ตอนแม่อายุประมาณ77ปี หมอรักษาผิดทำระบบร่างกายรวน(ผิดจริงๆ)เกือบไม่รอดอาการเหมือนครึงหลับครึ่งตื่นเป็นเดือนครับเรียกว่าโคม่าก็ได้(เหมือนช่างซ่อมไม่ถูกจุดเครื่องเกือบพัง คงจะเหมือนกับช่างบางคนที่เห็นรอบเครื่องรถเวนโต้มันสูงหรือตำผิดปรกติก็จัดการไปหาไขควงมาแก้รอบเดินเบาให้ หารู้ไม่ว่ามันมีเท้าไฟฟ้า(ตัวคุมรอบเดินเบา)คอยดันคันเร่งให้และถูกสั่งงานควบคุมมาจากกล่อง)
    โดยหมอรักษาเห็นว่าไม่ไหวแล้วก็สั่งยาให้ไปดูแลเองที่บ้านคำนวนว่ากว่ายาจะหมดก็สองเดือน ไม่ต้องกลับมาให้เห็น และมียาอยู่ตัวหนึ่งที่สั่งผิดDoseจากการคำนวนคร่าวๆที่ข้างซองยา เท่ากับให้ยาสองเท่า ยาตัวนั้นคือ Insulin ฉีดถ้าฉีดตัวนี้ต่อเนื่องร่างกายจะหมดพลังงาน เหมือนไดชาร์จเสียไฟอ่อนลงๆจนเครื่องดับ
    ผมตัดสินใจดื้อกับหมอ เหมือนบอกกับช่างซ่อมรถว่าพอแล้วผมขอเอาไปซ่อมเองได้ไม่ได้ช่างมัน
    หยุดฉีดยาอินสุลิน ลดยาระงับประสาทต่างๆลง ประอาหารให้ทานจืดๆ ลดเค็ม ลดหวานลดมัน ลดโปรตีนจากสัตว์ เหมือนปาฏิหารครับหนึ่งสัปดาห์ให้หลังลืมตาให้เราป้อนข้าวได้ อีกสามวันท่านลุกเดินเกาะฝาผนังห้องนอนได้เราเห็นแล้วตกใจ แล้วผมก็ดื้ออีกโดยค่อยๆลดยาความดันโลหิตลงคิดว่าน่าจะไม่ต้องกินก็ได้(หมอทุกคนบอกว่ายาความดันกินแล้วลดไม่ได้อันตรายความดันจะแกว่งเส้นโลหิตแตก)ผมก็คอยMonitorความดันตลอดถ้าไม่ขึ้นก็ไม่ต้องทานยาในที่สุดใครที่เป็นหมออ่านตรงนี้ดูอาจเป็นข้อมูลอีกข้อมูลหนึ่งคุณแม่ผมอยู่ได้แข็งแรงดีเดินได้เหมือนคนทั่วไปความจำดีหน้าตาสดใสโดยไม่ต้องใช้ยาลดความดันมามากกว่าสิบปีแล้วเพียงแต่ควบคุมอาหารและรักษาไม่ให้น้ำหนักเกิน ที่แน่ๆผลสุดท้ายคุณแม่ผมไม่ได้เป็นเบาหวาน ไม่ต้องใช้อินสุลิน แต่เป็นภาวะเบาหวานเทียมจากการที่หมออีกท่านหนึ่งฉีดเสตียรอยด์บ่อยไปหน่อย เฮื้อ
    ปัจจุบันพี่สาวขอเอาไปดูแลเอาไปส่งสุโขทัยผลัดกันบ้างลูกๆเหมือนกัน ดูแลพ่อแม่ไว้ครับจะไม่ตกอับหรือมีทุกข์ยากเย็นเข็นใจ เวลามีปัญหาหนักๆเข้ามาในชีวิตมันเหมือนมีคนเข้ามาช่วยได้ทุกครั้งไม่จนถึงทางตันครับ ใครไม่เคยยกมือไหว้ก็ทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้ไหว้ ให้นึกถึงตอนที่ท่าน ตามป้อนข้าวป้อนน้ำเรา เช็ดฉี่เช็ดอึเราแสนทรมารแม่ก็ไม่บ่นจนกว่าเราจะโตพ้นอ้อมอกมาได้ ถามตัวเราดูว่าตอนแม่ช่วยตัวเองไม่ได้เราจะทำให้แม่อย่างที่แม่เลี้ยงเราได้ไหม ขอให้โชคดีคุณความดีคุ้มครองท่านทุกคน
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กันยายน 12, 2012, 09:48:50 pm »

    พอได้ยินว่าคุณแม่ของคุณหนุ่มเชียงรายอายุ ๙๐ แล้ว ผมก้ออดชื่นชมไม่ได้ นึกถึงคุณแม่ของผมทันทีเลย แต่แม่ผมท่านเสียไปสี่ปีแล้ว ขอแสดงความยินดีที่คุณยังมีโอกาสทนุถนอมท่าน ใช้เวลากับท่านให้มากๆ เลยครับ ทุกวันนี้ผมยังเสียดายอยู่เลยว่าผมดูแลท่านน้อยไป พอเห็นแม่คนอื่นเค้าแล้วผมก็นึกถึงสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำให้แม่ตอนที่ท่านยังดีอยู่ ที่โผล่มานี่ก็แค่จะบอกว่าอิจฉาอ่ะครับ ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 12, 2012, 02:27:04 pm »

    ลบออกตอบซ้ำข้อความเหมือนเดิม
    ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: จุฬาคอฟฟี่
    « เมื่อ: กันยายน 12, 2012, 10:40:01 am »

    เอาใจช่วยนะครับ
    ข้อความโดย: หนุ่มเชียงราย
    « เมื่อ: กันยายน 12, 2012, 10:22:43 am »

    ขออภัยครับตอนนี้ไม่ได้อยู่กับน้องvento ใช้VW ญี่ปุ่น(Vigo4 Wd)เดินทางไปลุยน้ำท่วมสุโขทัยไปดูคุณแม่อายุ90ปีแล้วเดินเร็วใจร้อนไปหน่อยล้มกระดูกสะโพกหัก
    เรื่องventoถอดชิ้นส่วนออกมาขนาดนี้คงไม่ใส่กลับไปแล้วลากไปให้คนอื่นช่วยที่สำคัญใครล่ะแถวๆนี้ที่จะช่วยได้ดีและประณีตเท่าทีเราอยากได้ คงต้องลุยต่อไปถือโอกาสดูพวกOil seal ต่างๆไปด้วยจะได้ไม่รั่วซึมเครื่องเยิ้มไปด้วยน้ำมันเครื่องทีหลังเพราะทำทุกอย่างให้ดีเก็บไว้ใช้เองนานๆครับ
    ขอบคุณทุกท่านที่เอาใจช่วย