• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ตอบ

    Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
    Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
    ชื่อ:
    อีเมล์:
    หัวข้อ:
    ไอค่อนข้อความ:

    Verification:
    Type the letters shown in the picture
    Listen to the letters / Request another image

    Type the letters shown in the picture:
    ตัวย่อรถที่เราใช้สองตัวเป็นภาษาฝรั่ง:

    shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


    สรุปหัวข้อ

    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 02:12:55 am »

    ขอบคุณคุณ ble  ที่กรุุณาเป็นธุระเรื่องรูปท่อยางสามทาง ใช่แล้วครับ เส้นที่เห็นต่อมาจากใต้ลูกบอล ในภาพของคุณเป็นท่อยางแบบใหม่ เค้าว่าแบบนี้ทนกว่าที่ตัดต่อท่อเหล็กสามตา และมันลดการใช้เข็มขัดรัดสายไปสามตัว ไม่รุงรังดี เผอิญตาหาเรื่องมองไปเห็นเกราะกันน้ำของกล่องฟิวส์พัดลมของคุณ ble แล้วชอบแหะ แต่ผมอยากจะบอกว่าอันที่จริง ถ้ากล่องฟิวส์ของเราไม่แตกร้าว ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องปกป้องมากนะครับ เพราะของผมเองหลังจากเจอเหตุการน้ำที่ล้นพุ่งจากลูกบอลสาดราดตรงๆ เลยไม่ต่ำกว่าสามหนในเดือน สองเดือนที่ผ่านมา ขนาดที่ความร้อนของน้ำทำให้เกิดเป็นไอน้ำในกล่องเลยนะครับ ฟิวส์ไม่มีปัญหาเลยครับ น้ำไม่เข้านะครับ (แต่ความร้อนของน้ำทำให้เป็นไอน้ำจับที่ฝาใสๆ เท่านั้นครับ) ทีแรกผมก็นึกว่าเดี๋ยวคงเกิดช๊อตฟิวส์ขาดแน่ แต่ปรากฏว่าไม่เป็นไรเลยครับ แต่ถ้าจะกันเหนียวไว้ก็ไม่น่าเกลียดครับ กันไว้ดีกว่าแก้

    เรื่องพัดลมก็ดีครับ แชร์กันเป็นประโยชน์ดีครับ อากาศบ้านเรามันร้อน ไหนจะร้อนจากเครื่องยนต์ ไหนจะร้อนจากแดด ยังไงก็ควรมองๆ กันไว้ก่อน แบบที่คุณนิก เว้นโต้94 ทำแหละครับ ของผมเองตอนนี้ก็ทำเอาประสาทเสีย เวลาขับรถต้องคอยเหลือบมองว่าเข็มความร้อนวิ่งเกินไปไม๊ มีสัญญาณไฟปรอทกระพริบหรือเปล่า  รถผมเจ้าปลั๊กที่เสียบที่ท้ายพัดลม ที่เห็นมีสายไฟแยก ๓ เส้นน่ะ ของผมสายไฟตรงนั้นกรอบหลุดเห็นเนื้อสายไฟเลย แต่ถามช่างแล้วเค้าว่าไม่เป็นไร นี่ผมก็กำลังหาทางทางจะหุ้มหรือพันด้วยเทปอยู่ เนื่องจากเนื้อที่จำกัด ต้องค่อยๆ ทำครับ
    ข้อความโดย: ble
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2014, 12:54:19 pm »

    สายที่ว่าน่าจะเป็นเส้นนี้แน่ พี่หะมู


    ส่วนอีกเรื่องที่อยากฝากพี่ในคลับทุกคน คือ พัดลม คู่กรนีที่ว่า ชอบมีปัญหาเรื่องการทำงานหมุนบ้างไม่หนุนบ้าง ถ้าไม่ทำงาน 2 สะเต็บ ก็เปลี่ยนลีเรย์ ที่อยู่ใต้ลูกบอลพักน้ำนั่นแหละ
    แต่ถ้าเกิดอาการหมุนปัจบ้างไม่หมุนบ้าง เคาะที่พัดลมแล้วหาย อาการถ่านที่ตูดพัดลมไม่ชนมอเตอร์เริ่มมาเยื่อน ตัวถ่านอากจะบวมขึ้นหรือหมดก็ได้ ถ้าถ่านบวมมันตัวสปริงมันดันกับไม่นั่นเองบางที่เคาะก็หาย
    ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้เลยเปลียนพัดลมตลอด 3 ตัวเลย กลัวเรื่องความร้อนอย่างที่พี่หะมูว่านั่นแหละ
    ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนได้ค่าเสียหายรวมค่าแรง ไม่เกิน สามร้อย ตูดพัดลมสามรถงัดออกมาได้ด้วย งัดออกมาง่ายแต่ประกอบยากหน่อนต้องมีตัวช่วยบ้าง ผมเลยให้ช่างทำให้ ออกมาแบบนี้


    เราซื้อมือสองมาก็ยังต้องเช็คอยู่ดี เราไม่รู้เค้าวางมานานแค่ไหนผ่านอะไรมาบ้าง
    ข้อความโดย: ble
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2014, 12:15:37 pm »

    พี่หมู ครับ เรื่องลงรูปผมพอช่วยได้ถ้าพี่ว่างจัดมาผมสอนได้ บ้านเราอยู่ใกล้กันแต่ไม่ได้เจอกันสักที (กลัวผมไปปล้นบ้าน) 5555 ล้อเล่น ครับ
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2014, 03:28:54 am »

    ยินดีครับ แต่ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เป็นกูรูนะครับ ช่วยได้เท่าที่พอมีความรู้ครับ แต่บอร์ดนี้ก็มีเพื่อนๆ หลายท่านช่วยๆ กันครับ
    ข้อความโดย: kfz
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2014, 09:11:49 pm »

    สวัสดีครับคุณหะมู ชอบเรื่องที่คุณเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ผมเองชอบ VW มานานตั้งแต่สมัยเรียนเพราะอาจารย์พาซ่อมรถเต่าบ้าง ตู้แตงโมบ้าง ตอนนี้ก็ดูแล VW หลายคัน เต๋า mk1 Vento B5 แล้วจะปรึกษาคุณหะมูหรือท่านอื่นเกี่ยวกับแหล่งหาอะไหล่
    ข้อความโดย: Golf 3 Van
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2014, 12:05:03 pm »

    คุณ Golf 3 Van ติดต่อกลับมาหน่อยจิ เผื่อช่วยได้

    ขออนุญาตติดต่อหลังไมค์ก่อนนะครับ

    ขอบคุณมากครับ
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 08:24:45 pm »

    สวัสดีคุณ kfz ครับ ขอบคุณ่ที่ชอบเรื่องที่ผมเล่าครับ แล้วคุณใช้รถอะไร รุ่นไหนอยู่ครับ ยังไงก็เข้ามาคุยบ่อยๆ นะครับ ถึงแม้อาจจะไม่ใช่โฟล์กก็ยินดีนะครับ บอร์ดของพวกเราเกิดขึ้นมาก็เพื่อแชร์ความรู้กันน่ะครับ ยิ่งคุณ kfz มีความสามารถปรับซ่อมรถได้เองนี่ยิ่งดีใหญ่เลย จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ อีกหลายท่านได้สวมหัวใจสิงห์ลงมือแก้ปัญหากันเองบ้าง ยินดีต้อนรับนะครับ
    ข้อความโดย: kfz
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2014, 11:56:33 am »

    สวัสดีสมาชิกชาว VW ทุกๆท่านครับ ผมเองนานๆจะเข้ามาดูในเวป VW-Thai ก็ได้รับความรู้จากสมาชิกหลายๆท่านที่มาแชร์ประสบการณ์ไว้ เพื่อนำไปปรับซ่อมรถด้วยตนเอง ช่วงนี้ก็มีเวลาว่างมากขึ้นคงมีโอกาสเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวที่คุณหะมูนำมาลง ชอบมากๆ
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2014, 08:09:00 pm »

    คุณ Golf 3 Van ติดต่อกลับมาหน่อยจิ เผื่อช่วยได้
    ข้อความโดย: Golf 3 Van
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2014, 01:14:45 pm »

    ขอบคุณลูกพี่มากๆครับที่ช่วยอธิบายให้ความกระจ่าง

    เรื่องรูป หากไม่เป็นการรบกวน ส่งมาทางเมล์ก็ได้ครับ แล้วผมจะขออนุญาตโพสลงเวปให้ครับ

    เรื่องวาล์วน้ำ ช่างบอกว่า เครื่องยนต์จะทำงานได้ดี ที่อุณหภูมิระดับหนึ่ง

    โดยวาล์วน้ำ จะควบคุมให้อุณหภูมิคงที่ ตามที่ลูกพี่บอก

    ถ้าน้ำร้อนไป ก็จะทำให้เครื่องยนต์น็อก ลูกสูบติด ฝาสูบโก่ง อื่นๆอีกมากมาย

    แต่ถ้าน้ำเย็นไป ก็จะทำให้ กินน้ำมัน เร่งไม่ขึ้น เครื่องยนต์สึกหรอ อื่นๆอีกนิดหน่อย

    แต่รถคันเก่าที่ช่างถอดวาล์วน้ำออก พอขับออกแดดเมืองไทย ก็ได้ความร้อนที่ใกล้เคียงกัน... ;D

    ปล. ตอนนี้ก้นยุบอยู่ กำลังตามหาอะไหล่ในห้องซื้อขาย หากไม่เป็นการรบกวน ลูกพี่ช่วยชี้เป้าให้ผมด้วยนะครับ

    ขอขอบพระคุณมากๆครับ  :)
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2014, 12:38:29 am »

    ฮะแอ่ม เรื่องท่อยางเอาเป็นว่าผมพยายามอธิบายดีกว่านะ ใจน่ะอยากจะถ่ายรูปประกอบครับ ติดปัญหาอยู่อย่างเดียว ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย มีกล้องแต่ถ่ายแล้วก็เอามาถ่ายทอดไม่เป็น ได้แต่ถ่าย รอไหว้วานลูกชายมัีนก็ไม่ค่อยจะทำให้ ทำให้โมโหเปล่าๆ เจ็บใจตัวเองจริงๆ ที่ไหนเค้ามีสอนขอไปเรียนหน่อยก็ดี  เอาเป็นว่าคุณเปิดกระโปรง แล้วก็หลับตา ค่อยๆ เอามือคลำๆ ไป นึกไปตามที่ผมบอกก็แล้วกันนะ ลูกบอลเติมน้ำทางขวามือ อย่าบอกนะว่ารถคุณไม่มี สายยางเส้นเท่านิ้วก้อยมาจากเครื่องเสียบด้านบน อย่าไปสนมัน คลำลงไปข้างใต้ เจอท่อยางโตขนาดนิ้วโป้ง ลูบมาทางซ้ายจะสะดุดกับชุมทางสามแพร่ง ถ้าเป็นรุ่น(เก่า) ก็จะเจอเข็มขัดรัดตรงนั้น มีท่อยางขนาดเดียวกันต่อลงไปเหมือนตัวที ส่วนด้านตรงข้ามกับที่เราลูบมาตอนแรกก็จะยาวไปที่ตัวเครื่องแถวใต้จุดรวมสายไฟเครื่องที่เป็นแป้นกลมๆ ส่วนอีกปลายก็ไปที่ตัวเครื่องแถวต่ำกว่าสายบน สองสายจบที่ตัวเครื่องแต่ต่างตำแหน่งกัน คือเป็นท่อน้ำที่ต่อไปยังตาน้ำของเครื่องเพื่อการหมุนเวียน อีกด้านก็ต่อไปที่ลูกบอล คงไม่งงนะครับ ไม่น่าพลาดหรอก ไม่ทราบของคุณเป็นแบบเส้นเก่าของผมหรือไม่ คือ ตรงจุดสามตาต่อท่อยางด้วยทอสามตาโลหะ แต่ถ้าเป็นแบบที่ตรงนั้นเป็นท่อยางหมดก็คงไม่ต้องไปยุ่งเปลี่ยนนะครับ ถ้าเป็นยางทั้งเส้นตรงสามแพร่งนั้นจะหนาหน่อย และไม่มีเข็มขัดรัด ยกเว้นตรงปลายทั้งสามเท่านั้น

    วาล์วน้ำ ตัวนี้อยู่ในเครื่องตำแหน่งแถวๆ ใต้ไดชาร์จ ต้องไขน๊อตออกมา ลักษณะเหมือนลูกข่าง มีแกนตรงกลาง พันด้วยลวดสปริง ตรงกลางเป็นโลหะแผ่นกลมๆ ประกบกัน เวลาเค้าเจาะรู ต้องใช้สว่านแท่น เจาะรูรอบๆ แผ่นโลหะกลมๆ ที่ว่า เจาะสักสาม-สี่รู คือหลักการทำงานของวาล์วน้ำ ตอนเราติดเครื่อง เครื่องยังเย็นอยู่ วาล์วน้ำจะทำหน้าที่กักน้ำให้หมุนเวียในเสื้อเครื่อง เพื่อระบายความร้อน จนเมื่อน้ำร้อนได้ที่แล้ว วาล์วน้ำจะทำหน้าที่คลายตัวเพื่อให้น้ำที่ร้อนจากเครื่องวิ่งเข้าไปที่หม้อน้ำเพื่อถ่ายเทความร้อนให้เย็น แล้วก็นำน้ำที่เย็นกว่าหมุนเวียนเข้าเครื่องอีกไง แล้วของเดิมมันปิดสนิท (ตรงแกนกลางนัยว่ามีปรอทช่วยในการขยายตัวของลิ้นวาล์ว) แต่ถ้ามันเกิดสนิมติดตายเหมือนของผม น้ำจึงไม่มีโอกาสผ่านไปยังรังผึ้งหม้อน้ำ ความร้อนคงสูงแบบผมโดน ทีนี้ช่างไทยเค้าก็เก่งนะเจาะรูมันซะเลย ทีนี้่ถ้าลิ้นมันเกิดตาย อย่างน้อยยังมีรูให้น้ำมันผ่านไปได้บ้างไง เก่งไม๊ล่ะภูมิปัญญาพี่ไทยเรา (ผมไม่ทราบว่าฝรั่งเค้าจะทำแบบนี้หรือเปล่านะครับ) อ้าวแล้วถ้างั้นเราถอดวาล์วน้ำซะเลยสิ ช่างเค้าก็บอกว่าได้แต่มันจะไม่ดีกับเครื่อง แต่รายละเอียดว่าไม่ดีอย่างไร ผมลืมไปแล้ว เค้าบอกเหมือนกันแต่ผมดันลืมซะงั้น เอาเป็นว่ามันไม่ดีกับเครื่องก็แล้วกัน ขืนซักมากไปเดียวมันเข้าตัวเอานะ (แต่ใครทราบดีช่วยต่อยอดหน่อยนะครับ บอกด้วยว่าที่ผมร่ายมานั้นผิดถูกอย่างไร ขอบคุณล่วงหน้าครับ).

    ข้อความโดย: Golf 3 Van
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2014, 03:40:14 pm »

    ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์ที่นำมาแบ่งปันกัน

    จะเข้าหน้าร้อนแล้วครับ สงสัยต้องดูระบบน้ำให้ดีๆหน่อย

    เรื่องฝาปิด ผมก็เคยลืมครับ แต่ของผมหล่นหายไปไหนก็ไม่รู้

    ส่วนเรื่องท่อยาง อยากให้ลูกพี่ช่วยลงรูปให้หน่อยได้มั้ยครับ อยากจะเปลี่ยนเหมือนกัน

    แต่ดูไม่ออกว่าท่อยางเส้นไหน แล้วท่อเหล็กสามตาอยู่ตรงไหนครับ

    ส่วนเรื่องวาล์วน้ำ ไม่แน่ใจว่าช่างเจาะรูตรงไหน แล้วทำไมเจาะรูมันถึงไม่ติดละครับ งง

    รถคันเก่าเคยมีปัญหากับวาล์วน้ำเหมือนกัน ช่างถอดออกไปเลย

    ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2014, 01:34:05 pm »

    อ้อลืมบอกไปว่า (แฮะ แฮะ พล่ามต่่อนิดนุง) ไอ้ที่ผมบอกว่าซื้อน้ำดื่มกะไปเติมระบบ ปรากฏว่าใช้ไปแค่ขวดเดียว ตอนที่ไปถ่าย ตอนแรกช่างเค้าก็เอาน้ำประปาต่อสายมาใส่เครื่อง เพื่อไล่ตะกอน ตอนท้ายก็ใช้น้ำที่ผมซื้อเติม พร้อมคูลแล้นท์ แต่ปรากฏว่ามันยังไม่สุดซอยเท่าไรครับ (อันนี้ก่อนเจอว่าวาล์วน้ำตายนะครับ) ตอนหลังที่เปลี่ยนวาล์วน้ำก็ต้องไล่ระบบใหม่อยู่ดี เจอน้ำประปาอีกจนได้ ยังนึกไม่ออกว่าเราจะไปหาน้ำกรองสะอาดๆ กว่าน้ำประปาและต่อท่อมาไล่ได้ที่ไหนนะ ยังนึกไม่ออกครับ ไม่งั้นคงต้องเอาน้ำกรองใส่ถังสองร้อยลิตรต่อสายมาใช้แทนน้ำประปา เพื่อนท่านไหนมีวิธีเจ๋งๆ แนะนำด้วยนาครับ ไม่อยากได้น้ำประปาเลย ไม่ทราบว่าจู้จี้เกินไปหรือเปล่าไม่ทราบ ฮิ ฮิ ขอบคุณครับ
    ข้อความโดย: หะมู
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2014, 01:25:00 pm »

    มัวแต่ไปตะแร๊ดแต๊ดแต๋กับเค้าซะนาน ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านบอร์ด  จนเจอปัญหาเรื่องความร้อนของเจ้าแช่อิ่ม ก็เลยอยากเอามาแชร์กับเพื่อนๆ ให้ระวังกันไว้บ้างครับ เดี๋ยวก็เข้าหน้าร้อนอีกแล้ว ยังไงจะได้ตรวจตรากันล่วงหน้า ไม่ต้องไปจอดข้างทาง เหมียนผม

    - เริ่มแรกเลยก็ประมาณธันวาที่ผ่านมา เปิดลูกบอลเช็คเติมน้ำก่อนใช้รถ แล้วดันเผลอเลอลืมปิดฝา ดีที่ยังวางไว้ในที่ที่ไม่หล่นหาย ขับไปไหนต่อไหนสักพัก น้ำมันคงร้อนล้นออกมาฟู่กระจายเต็มห้องเครื่อง ทีแรกนึกว่าหม้อน้ำรั่ว เปิดดูถึงเห็นว่าไม่ได้ปิดฝา ก็รอให้มันเย็นสักพักใหญ่แล้วก็เติมน้ำใหม่ โชคดีไม่มีอะไรเสียก็วิ่งกลับได้ รอดตัวไป
     
    - ถัดมาไม่นานก่อนเค้าชัตดาวน์กรุงเทพ ขับไปซื้อยาแถวศิริราช รถติดไฟแดงอยู่แยกพรานนก อยู่ดีไฟปรอทกระพริบอีกแล้ว เอาล่ะสิจำได้ว่าไม่ได้เปิดฝาลูกบอลนี่หว่า รถก็ติดพยายามหักเข้าซ้าย ยังไม่ทันเข้าได้ดี มีเสียงโป้งน้ำกระจายอีกแล้ว พอเปิดฝากระโปรงดู ร่องรอยน้ำในหม้อน้ำกระจากเหลืองไปหมด พบว่าท่อยางเส้นที่ต่อจากใต้ลูกบอลพักน้ำไปที่เครื่อง ขาดตรงแยกสามตาพอดี เนื่องจากมืดแล้วเลยต้องฝากรถทิ้งไว้แถวนั้น รุ่งขึ้นก็ไปหาท่อยางมาเปลี่ยน สายเก่าที่ผมใช้ ตรงสามตาเค้ามีท่อเหล็กสามตาต่ออยู่ ใช้ไปนานเข้าสนิมในระบบน้ำมันกัดจนกร่อนได้ครับ ของผมก็หักตรงนั้นแหละ ได้ความรู้ว่ามีสายแบบที่เป็นสามตายางซึ่งจะทนกว่า  ได้มาก็จัดการเปลี่ยนเองเอาน้ำใส่ลองติดเครื่องไฟไม่โชว์ ก็รีบขับออกมาว่าจะไปอู่เลย ขับมาได้สักกิโลกว่า เอาอีกแล้วไฟโชว์อีกแล้ว ปรากฏว่าพัดลมมันไม่หมุ่นนั่งเอง (ความร้อนเพิ่มเลยดันเอาท่อขาดดั่งว่า) ผลสุดท้ายต้องลากไปอู่ เปลี่ยนพัดลมตัวนึง อาการหายไปเลย

    - ยังครับยังไม่จบ เนื่องจากเห็นว่าน้ำในระบบมันเหลืองจัด ไอ้เราก็อยากจะล้างระบบซะหน่อย อุตส่าห์ไปซื้อน้ำดื่มแบบขวดหิ้วใหญ่ๆ มาสาม-สี่ขวด หวังว่าจะใช้น้ำกรองสะอาดหน่อยไม่มีสนิมเหมือนน้ำประปาใช้เติมช่วยลดสนิม ช่างเค้าก็จัดให้ แถมเติมน้ำยาคูลแลนท์อีกขวด สบายใจ

    - วานซืนขับรถจะไปพัฒนาการ ขึ้นทางด่วน พอลงทางด่วนมาแถวแยกผังเมือง ติดไฟแดงเหลือบมองดูหน้าปัทม์ เอาอีกแล้วสิ ไฟปรอทไม่กระพริบ แต่ทำไมเข็มมันวาดเลยกึ่งกลางแบบทุกทีหว่า ไฟแดงก็น๊านนาน ดับเครื่องก่อนรอไฟเขียวค่อยสตาร์ท วิ่งไปแอบแถวหน้ารฟม. จอดอยู่ครึ่งชั่วโมงให้เครื่องมันเย็นลงหน่อย แล้วก็แข็งใจกลับรถขึ้นทางด่วนไปอู่เลย สังเกตว่าเวลารถวิ่งได้เรื่อยบนทางด่วน เข็มก็อยู่กึ่งกลาง แต่พอเจอรถชะลอตอนติดมันคอยจะเกินครึ่งตลอด แต่ยังดีที่ค่อยๆ ซึมมาไม่ได้วาดปรื๊ดทีเดียว แต่ไม่เกินขีดนึง ผมก็อาศัียพอรถติดไฟแดงก็ดับเครื่องแล้วพอไฟเขียวก็ติดเครื่องใหม่แบบพวกตุ๊กๆ  กัดฟันพาไปจนถึงมือช่าง ปรากฏว่าหมอดูแล้วบอกว่าจำเลยคือ"วาล์วน้ำ" ถอดออกมาดู ก็จริงดั่งว่า มันติดตายสนิทไม่มีโอกาสสั่งเสีย นัยว่าเป็นของติดรถมาแต่ดั่งเดิมเลย ขนาดเอาไฟจุดลนมันยังไม่ฟื้นเลยครับ เปลี่ยนใหม่ช่างก็เอาสว่านเจาะรูเพื่อช่วยในการไม่ให้มันติดอีก เป็นความรู้ใหม่สำหรับผมจริงๆ เดิมใช้แต่รถระบายความร้อนด้วยอากาศไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำเลยครับ คุยกับเพื่อนๆ มันบอกว่ามันก็เจาะรูวาล์วอย่างว่า ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นภูมิปัญญาช่างไทยหรืออย่างไร แต่ขอชมว่าเยี่ยมนะ

    ทั้งหลายทั้งปวงที่พล่ามมานี่ก็แค่อยากจะเตือนเพื่อนๆ เท่านั้นว่า ยังไงก็อย่าลืมก้มๆ ดูระบบหล่อเย็นของรถเราบ้าง ถ้าว่างจัดแบบผมอาจจะขอให้ช่างเค้่าถอดออกมาดูก็ได้ เผื่อว่าสภาพมันน่าจะต้องเปลี่ยนแล้ว จะได้จัดการซะก่อน บางทีของติดรถที่ใช้มาสิบกว่าปีแบบของผม และยังไม่เคยเปลี่ยนมา อาจจะได้เวลาแล้วก็ได้นะครับ ยังไงก็ขอให้ใช้โฟล์กอย่างมีความสุขนะครับ