• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ตอบ

    Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
    Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
    ชื่อ:
    อีเมล์:
    หัวข้อ:
    ไอค่อนข้อความ:

    Verification:
    Type the letters shown in the picture
    Listen to the letters / Request another image

    Type the letters shown in the picture:
    ตัวย่อรถที่เราใช้สองตัวเป็นภาษาฝรั่ง:

    shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


    สรุปหัวข้อ

    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรท่านครับ และยินดีที่จะนำประสบการณ์ที่ได้ไปพบเจอมาทั่วประเทศไทยอีกทั้งในต่างประเทศมาเล่าให้ฟังเช่นกัน แต่พอดีคำพูดของท่านนี้ต่างหากครับ

    เรื่องประหยัด อันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่คุ้มกับการลงทุน
    เพื่อลดอุณหภูมิของเครื่อง ผมว่าติดออยน้ำเครื่องจะถูกกว่ามั๊ย เห็นผลกว่า ราคาถูกกว่าด้วย

    ปล.คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงแน่กับเงิน26000บาทที่ลงไปแล้ว อาจจะต้องถอดทิ้ง
    โดยคุณ : Passat B4 กทม - [ 23 ก.ย. 2553 , 01:35:21 น.]

    ผมอ่านแล้วผมว่าท่านได้ยึดความคิดเห็นที่มีแค่รถเค้าคันเดียวหรือตัวเค้าคนเดียวมาคุยผมว่าไม่ค่อยถูก ก็เหมือนบางหัวข้อที่ช่าง ต่าง ๆ ในเว็ปนี้ทะเลาะกัน ผมเห็นคนชมก็มีคนด่าก็แยะคนอ่านเค้าก็พิจรณากันดู แต่ก็ไม่ควรไปออกความเห็นเช่นนั้นอีกอย่างผมแค่มาแขร์ความเห็นสอบถามกันดู ดูชื่อที่ใช้ก็คงรู้ว่า ผมใช้ว่ามือใหม่เวนโต้และพัสสาท ครับ พึ่งเริ่มซื้อมาใช้สองคันทดลองดูก็ชอบ อีกทั้งเว็ปก็มีข้อมูลมาก เลยมาแลกเปลี่ยนไม่ได้คิดจะมาขายอะไรใคร ไม่ได้มาลงราคาอะไร ผมแค่มาถามว่าปกติใช้กันได้เท่าไหร่ ก็เท่านั้นเอง แต่ไม่ต้องห่วงว่าผมจะไม่มาพูดคุยนะครับ ผมเองใช้รถหลายคัน เดินทางตลอด ชอบรื้อ ขอบเล่นครับ ไม่ได้โกรธอะไรแค่เอาความจริงมาพูดเท่านั้นครับ แรงกว่านี้ก็เจอมาเยอะครับ จิ๊บ ๆ ครับ อย่างกังวล


    ข้อความโดย: Passat B4 ลพ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ใจเย็นครับท่าน ผมไม่เข้าใจในหลักการเฉยๆครับท่าน เราแลกเปลี่ยนกันครับ ท่านมีประสบการณ์ดีดีมาเล่าสู่กันฟังเชื่อว่าทุกท่านที่เขามาอ่านก็ขอบคุณหลายกันแล้วครับ เรื่องความประหยัดผมไม่ออกความเห็นเนื่องจากขึ้นกับการใช้งาน งงเรื่องเครื่องเย็นลงสองประการ 1 เย็นได้ไง 2 เย็นแล้วมันดีหรือไม่
    ผมไปศึกษาเพิ่มเติมมาครับ การสันดาบของ H จะเกิดผลเป็นน้ำ(H2O) กับความร้อนครับ ไม่มีก๊าซแรงดันใดใดเกิดขึ้น แต่ถ้าเราเผา H โดยตรงจะเกิดเหมือนเป็นบึมเล็กๆ เนื่องจากพลังงานความร้อนไปทำให้อากาศรอบๆขยายตัวครับ ในกรณีเผาไหม้ในห้องปิดอย่างในกระบอกสูบต่างกันครับ สาเหตุหนึ่งที่อาจพอเป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องเย็นลงได้คือน้ำที่เกิดขึ้นในห้องเผาไหม้เป็นตัวระบายความร้อนครับ อย่างไรก็ตามคำถามที่สองเครื่องเย็นแล้วดีหรือไม่ ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะถ้าเครื่องเย็นแล้วดียังมีวิธีอีกมากมายทีสามารถลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์ลงได้ครับ แต่ที่บริษัทรถยนต์ไม่ทำเพราะต้องการให้เครื่องร้อนไว้ที่อุณหภูมิทำงานของเครื่องครับ

    27 ก.ย. 2553 , 07:39:39 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    Passat B4 กทม พอดีผมไม่รู้เหมือนกันว่าหนังในคลิปนี้บริษัทห้างร้านต่าง ๆ คงคิดว่าไม่คุ้มการลงทุนเหมือนคุณไม๊ครับ เห็นให้ผมติดให้จัง ในคลิปก็ทีเดียวสองคัน บริษัทพวกนี้คงโง่มาก ๆ นะครับ ที่มาให้ผมหลอกติดได้ที่ล่ะสองคัน หรือว่าให้ผมติดเสร็จแล้วเอาไปถอดทิ้งอย่างคุณว่า ผมก็ดีใจครับได้เงินมาฟรี ๆ ที่ละ ห้าหมื่นกว่าบาท ดีเหมือนกัน มีแบบนี้ทุกวันไม่นานคงได้ไปตีกอลฟ์ทุกวันแล้วครับ ลองดูครับ ขำ ๆ อย่าซีเรียสตามลิงค์นี้นะครับ 555555

    http://www.hgvthailand.com/clip.php?select_clip=1&id=89

    23 ก.ย. 2553 , 22:38:48 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    Passat B4 ลพ กราบเรียนแบบนี้ครับ อย่าว่าแต่คุณเลยผมเองก็ โครตสงสัยเหมือนกันครับ ผมเองก็มีรถแก๊สหลายคัน เรื่องนี้ก็ทำผมงง ๆ เหมือนกันครับ ไม่พอยังมีรถเมล์แถวที่วิ่งจาก นครปฐมไปเพชรบุรี นครปฐมสุพรรณ อีกร่วม 30 คันที่เค้าเป็นเอ็นจึวีก่อนติดตรงส่วนเครื่องยนต์เค้า มีเป็นเทอร์โมมิตเตอร์วัดความร้อนติดอยู่ พอติดเสร็จก็เห็นความร้อนลดลง แล้วรถก็วิ่งดีขึ้น ยังไงรบกวนช่วยคิดหรือหาคำตอบให้หน่อยก็ดีครับ ผมเองความรู้น้อยไม่เข้าใจเหมือนกัน รบกวนนะครับ ขอบคุณเช่นกันสำหรับความสนใจและความเห็นดี ๆ ครับ
    23 ก.ย. 2553 , 21:34:46 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    เรื่องความร้อนเป็นเรื่องแปลก ผมเอง ใช้รถแก๊สมาหลายคัน แต่พอใส่ไปเย็นทุกคันถ้าเป็นอย่างคุณ Passat B4 ลพ ว่าแล้วก็ต้องทำให้ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไมใส่ในรถแก๊สแล้วมันทำให้เย็นลงได้ครับ เพราะว่าผมเคยเอาเทอร์โมมิตเตอร์ใส่ในห้องเครื่องแล้วลองวิ่งดูระหว่างมี กับไม่มี H อุณหภูมิในห้องเครื่องต่างกัน 15-20 องศาครับผมเองก็เลยงงเค้าไปใหญ่ว่าเหตผลคืออะไรครับ หรือถ้าคุณสงสัยก็ลองได้นะครับฟรีครับแต่ช่วยมาหาคำตอบให้หน่อยผมก็พอใจแล้วครับ อีกอย่างผมไม่เคยโฆษณาแบบนั้นนะครับ ผมเน้นประหยัดน้ำมันครับ ไม่เน้นประหยัดแก๊ส หรือ เครื่องเย็น แต่อู่แท๊กซี่สองสามอู่เค้ามีไฟล์ประวัติรถยนต์ไว้ ก่อนติดกับหลังติดเค้าแจ้งมาว่า เวลาในการเปิดฝาสูบนั้นยาวขึ้นโดยเฉลี่ยต่อครั้งประมาณ หนึ่งถึงสองเดือน ผมก็เลยยิ่งงงเข้าไปใหญ่ผมเองความรู้น้อยอายศัยมั่ว ๆ ทำไปเท่านั้นเอง รบกวนด้วยนะครับ ถือว่าขอความรู้แล้วกันนะครับ
    23 ก.ย. 2553 , 21:21:09 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    เรื่องความร้อนเป็นเรื่องแปลก ผมเอง ใช้รถแก๊สมาหลายคัน แต่พอใส่ไปเย็นทุกคันถ้าเป็นอย่างคุณ Passat B4 ลพ ว่าแล้วก็ต้องทำให้ผมสงสัยเหมือนกันว่าทำไมใส่ในรถแก๊สแล้วมันทำให้เย็นลงได้ครับ เพราะว่าผมเคยเอาเทอร์โมมิตเตอร์ใส่ในห้องเครื่องแล้วลองวิ่งดูระหว่างมี กับไม่มี H อุณหภูมิในห้องเครื่องต่างกัน 15-20 องศาครับผมเองก็เลยงงเค้าไปใหญ่ว่าเหตผลคืออะไรครับ หรือถ้าคุณสงสัยก็ลองได้นะครับฟรีครับแต่ช่วยมาหาคำตอบให้หน่อยผมก็พอใจแล้วครับ อีกอย่างผมไม่เคยโฆษณาแบบนั้นนะครับ ผมเน้นประหยัดน้ำมันครับ ไม่เน้นประหยัดแก๊ส หรือ เครื่องเย็น แต่อู่แท๊กซี่สองสามอู่เค้ามีไฟล์ประวัติรถยนต์ไว้ ก่อนติดกับหลังติดเค้าแจ้งมาว่า เวลาในการเปิดฝาสูบนั้นยาวขึ้นโดยเฉลี่ยต่อครั้งประมาณ หนึ่งถึงสองเดือน ผมก็เลยยิ่งงงเข้าไปใหญ่ผมเองความรู้น้อยอายศัยมั่ว ๆ ทำไปเท่านั้นเอง รบกวนด้วยนะครับ ถือว่าขอความรู้แล้วกันนะครับ
    23 ก.ย. 2553 , 21:20:18 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ไม่เป็นไรครับ ไม่คุ้มก็ไม่คุ้มครับ แต่เรื่องถอดทิ้งคงต้องแย้งนิดนะครับ ถ้าติดแล้วผมทำไม่ได้อย่างที่พูดผมคงไม่ต้องไปติดให้เสียเวลาผมหรอกนะครับ งานจะติดแบบไม่ถอดทิ้งทุกวันนี้ก็ทำไม่ทันแล้วครับ ขอประเทานอภัยอีกครั้งนะครับ ไม่มีเจตนาไม่ดีอะไรนะครับ แค่พูดตรง ๆ เรื่องประหยัดคือประหยัดน้ำมัน นะครับ ประหยัดแก๊ส เครื่องเย็นเป็นของแถมครับ ประโยชน์อย่างอื่นก็มีอีกหลายอย่างนะครับ แต่ไม่เป็นไรคุณว่าไงผมก็ว่างั้นแหล่ะครับ ขอบคุณครับสำหรับความเห็นเรื่องเครื่องเย็นแล้วไม่คุ้ม พอดีลูกค้าที่ติดไปเป็นอู่แท็กซี่เค้ามีรถร้อยกว่าคัน เค้าบอกว่า ถ้าเครื่องเย็นขึ้นสักเดือนแล้วยืดเวลาเปิดฝาสูบได้เดือนเดียวคุ้มแล้วครับ ได้รายได้เพิ่ม วันละแค่พันกว่าบาทเองถ้ายืดได้ สองเดือนกำไรครับ แล้วครับ ผมเห็นเค้าออกแท็กซี่ป้ายแดงติดเอ็นจีวีเองรถติดเอ็นจีวีเสร็จก็เรียกผมไปติดทุกที ไม่เห็นพูดว่าไม่คุ้มตรงไหนที่ให้แค่เครื่องเย็นแล้วเปิดฝาสูบช้าลงไป จริง ๆ กราบเรียนอย่างนี้นะครับ เครื่อง หนึ่งตัวของเค้าเปิดฝาสูบได้สูงสุดได้ หกถึง แปดครั้งครับ ในเวลาทุกสองหรือสามเดือน ถ้าเค้ายืดได้ครั้งละแค่ หนึ่งเดือนแปลว่าหาเงินได้เพิ่ม อีก แค่เดือนละ สามถึงสี่หมื่นบาทต่อเดือนผมเองไม่เก่งเลขหรือการคำนวนเหมือนคุณไม่ทราบแบบนี้เค้าเรียกว่าไม่คุ้มใช่ไม๊ครับ คุณ Passat B4 กทม คูณตัวเลขแบบเลว ๆ แค่ยืดได้แค่ สองเดือนก็กำไรเยอะแล้วครับดันทะลึ่งเกินได้ หกเจ็ดเดือนตัวเลขออกมาทำผมคูณไม่ถูกเลย ความเห็นคุณน่ะถูกสำหรับคุณคิดเท่านั้นครับ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดนะครับ ไม่คุ้มคุณผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ต้องขอโทษอีกทีที่ต้องแสดงความคิดเห็นอันนี้เพื่อจะเป็นข้อมูลให้คนได้รับรู้เรื่องเล็ก น้อย ๆ ที่ผมพอจะพูดกับคุณ ๆ ได้นะครับ มิมีเจตนาอะไรไม่ดีแค่เล่าสู่กันฟัง ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับความคิดเห็นที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย
    23 ก.ย. 2553 , 21:03:50 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ไม่เป็นไรครับ ไม่คุ้มก็ไม่คุ้มครับ แต่เรื่องถอดทิ้งคงต้องแย้งนิดนะครับ ถ้าติดแล้วผมทำไม่ได้อย่างที่พูดผมคงไม่ต้องไปติดให้เสียเวลาผมหรอกนะครับ งานจะติดแบบไม่ถอดทิ้งทุกวันนี้ก็ทำไม่ทันแล้วครับ ขอประเทานอภัยอีกครั้งนะครับ ไม่มีเจตนาไม่ดีอะไรนะครับ แค่พูดตรง ๆ เรื่องประหยัดคือประหยัดน้ำมัน นะครับ ประหยัดแก๊ส เครื่องเย็นเป็นของแถมครับ ประโยชน์อย่างอื่นก็มีอีกหลายอย่างนะครับ แต่ไม่เป็นไรคุณว่าไงผมก็ว่างั้นแหล่ะครับ ขอบคุณครับสำหรับความเห็นเรื่องเครื่องเย็นแล้วไม่คุ้ม พอดีลูกค้าที่ติดไปเป็นอู่แท็กซี่เค้ามีรถร้อยกว่าคัน เค้าบอกว่า ถ้าเครื่องเย็นขึ้นสักเดือนแล้วยืดเวลาเปิดฝาสูบได้เดือนเดียวคุ้มแล้วครับ ได้รายได้เพิ่ม วันละแค่พันกว่าบาทเองถ้ายืดได้ สองเดือนกำไรครับ แล้วครับ ผมเห็นเค้าออกแท็กซี่ป้ายแดงติดเอ็นจีวีเองรถติดเอ็นจีวีเสร็จก็เรียกผมไปติดทุกที ไม่เห็นพูดว่าไม่คุ้มตรงไหนที่ให้แค่เครื่องเย็นแล้วเปิดฝาสูบช้าลงไป จริง ๆ กราบเรียนอย่างนี้นะครับ เครื่อง หนึ่งตัวของเค้าเปิดฝาสูบได้สูงสุดได้ หกถึง แปดครั้งครับ ในเวลาทุกสองหรือสามเดือน ถ้าเค้ายืดได้ครั้งละแค่ หนึ่งเดือนแปลว่าหาเงินได้เพิ่ม อีก แค่เดือนละ สามถึงสี่หมื่นบาทต่อเดือนผมเองไม่เก่งเลขหรือการคำนวนเหมือนคุณไม่ทราบแบบนี้เค้าเรียกว่าไม่คุ้มใช่ไม๊ครับ คุณ Passat B4 กทม คูณตัวเลขแบบเลว ๆ แค่ยืดได้แค่ สองเดือนก็กำไรเยอะแล้วครับดันทะลึ่งเกินได้ หกเจ็ดเดือนตัวเลขออกมาทำผมคูณไม่ถูกเลย ความเห็นคุณน่ะถูกสำหรับคุณคิดเท่านั้นครับ ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดนะครับ ไม่คุ้มคุณผมก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ต้องขอโทษอีกทีที่ต้องแสดงความคิดเห็นอันนี้เพื่อจะเป็นข้อมูลให้คนได้รับรู้เรื่องเล็ก น้อย ๆ ที่ผมพอจะพูดกับคุณ ๆ ได้นะครับ มิมีเจตนาอะไรไม่ดีแค่เล่าสู่กันฟัง ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับความคิดเห็นที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย
    23 ก.ย. 2553 , 21:03:39 น
    ข้อความโดย: Passat B4 ลพ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ขอบคุณครับ ผมก็สนใจอยู่ พลังงานจากน้ำ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเพราะต้นทุนแหล่งพลังงานต่ำและหาได้ทั่วไป เคยไปดูไปฟังมาหลายที่..แต่ ไม่ค่อยเป็นวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนเท่าไหร เครื่องมือเครื่องไม้ต่างๆส่วนมากครบ แต่ที่มาของทฤษฎีหรือหลักการในการวัดและสร้างเครื่องมือค่อนข้างคลุมเครือ

    อุณหภูมิทำงานของเครื่องที่ 95 องศานั้น ตามคู่มือรถยนต์ไม่ใช่อุณหภูมิการจุดระเบิดครับ แต่เป็นอุณหภูมิของเครื่องยนต์ที่จะทำงานเป็นปกติ รถในค่ายญี่ปุนส่วนมากจะอยู่ที่ 85 ในค่ายยุโรปจะสูงกว่า ประมาณ 90-95 สิ่งที่เห็นต่างได้ชัดในรถที่กำหนดอุณหภูมิการทำงานต่างกันคือ อุณหภูมิเปิดของวาล์วน้ำครับ ของVW Passat B4 อุณหภูมิทำงานที่ 95 วาล์วน้ำเปิดที่ 87 ครับ อุณหภูมิน้ำรักษาที่ 90 ครับ แต่ถ้าเป็น Toyota รุ่นเก่าที่ผมเคยใช้ อุณหภูมิทำงานที่ 85 วาล์วน้ำเปิดที่ 78 รักษาอุณหภูมิน้ำที่ 80 ครับ

    อีกอย่าง H มีอัตราการวาบไฟสูงมาก (ผมไม่แน่ใจว่ามากกว่า LPG หรือไม่) แต่สัมปสิทธิ์การขยายตัวหลังจากที่ติดไฟต่ำ (สัมปสิทธิ์การขยายตัวหลังการติดไฟหรือจุดระเบิดมีผลโดยตรงต่อกำลังอัดที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบ น้ำมัน LPG และ ไฮโดรเจน น้ำมันจะมีค่ามากสุดรองลงมาก็ LPG สุดท้าย H นี่เป็นเหตุให้ถ้านับเป็นการกินน้ำมันเป็นลิตร รถคันเดียวกันจะกิน LPG มากลิตรกว่าน้ำมันในการวิ่งระยะทางเท่ากัน) แต่ที่เป็นประโยชน์แน่แน่คือ การมี H อยู่ในระบบช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้นแน่นอน แต่การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้นย่อมทำให้เกิดท้งกำลังอัดและค่าความร้อนมากขึ้น แต่ผลที่ได้(จากการโฆษณาของผู้ขาย)ว่าทำให้เครื่องเย็นลง มันจึงทำให้ผมสงสัยมากครับ

    แต่อย่างไรขอบคุณสำหรับคำตอบมากมากครับ

    23 ก.ย. 2553 , 20:43:31 น
    ข้อความโดย: Passat B4 กทม
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    เรื่องประหยัด อันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่คุ้มกับการลงทุน
    เพื่อลดอุณหภูมิของเครื่อง ผมว่าติดออยน้ำเครื่องจะถูกกว่ามั๊ย เห็นผลกว่า ราคาถูกกว่าด้วย

    ปล.คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงแน่กับเงิน26000บาทที่ลงไปแล้ว อาจจะต้องถอดทิ้ง  

    23 ก.ย. 2553 , 01:35:21 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ลืมไปครับ อยากรู้ว่าเย็นแค่ไหน ก็ขับรถไปหาเค้าที่ศูนย์บริการราชพฤกษ์ แต่ต้องโทรไปนัดก่อนนะครับ เห็นเค้าว่า เค้ามีชุดให้ทดสอบได้ฟรี ภายใน 5 นาทีเท่านั้น คุณอยากรู้เรื่องเย็น เรื่องประหยัด เค้ามีวิธีทำให้คุณได้เห็นกับตา สัมผัสได้ ด้วยรถและตัวท่านเองว่าเย็นไม๊ วิ่งดีไม๊ ประหยัดจริงไม๊ เค้าทำให้ท่านเห็นได้ครับ เพราะว่าเป็นวิทยาศาสตร์ครับ เค้าว่างั้นนะครับ ผมก็แค่คนยากรู้ชอบลองถูก ๆ ผิด ๆ โดนช่างหลอกก็เยอะ ซื้อมาทิ้งก็แยะ แต่ก็สนุกดีครับ
    22 ก.ย. 2553 , 22:33:55 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ผมเองก็ความรู้ไม่มาก แต่ขอเสนอความคิดเห็นเท่าที่พอจะมีความรู้นะครับ เรื่องเครื่องเย็นลงนั้นคุณแจ้งมาถูกต้องครับ เรื่อง 95 องศา มันคือ องศาของการจุดระเบิดของน้ำมันกับอากาศในห้องเครื่องยนต์ครับ สำหรับเรื่องเครื่องเย็น ตามที่ผมเข้าใจนะครับ คือว่า อุณหภูมิปกติของการจุดระเบิดมันคือ 95 องศา เสื้อสูบสายไฟ อุปกรณ์อีเลคโทรนิดต่าง ๆ ก็คำนวณเพื่อเรื่องของอุณหภูมิเหมือนกัน แต่พอมีก๊าซไฮโดรเจนเข้าไปจุดระเบิดมากกว่าปกติ ทำให้การจุดระเบิดง่ายขึ้นเร็วขึ้น หมดจดขึ้น เลยทำให้อุณหภูมิในการจุดลดลง อาจจะเป็น 80 หรือ 85 องศา ผลก็เลยทำให้แอร์เย็นขึ้น เพราะร้อนน้อยลง รถแรงขึ้น เพราะการจุดระเบิดได้สมบูรณ์ถ้าเป็นเครื่องดีเซล ก็จะลดควันดำได้มาก สายพาน สายไฟ อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็จะใช้ได้นานขึ้น แต่ประเด็นนี้ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้แก๊ส ทุกคนชอบบอกแต่เรื่องประหยัด ไม่ยอมพูดเรื่องความร้อน เพราะอะไรเหรอ อาจไม่รู้ ไม่เข้าใจ อยากแต่ประหยัดอย่างเดียว เครื่องเสียเครื่องพังก็ซ่อมกันไป เท่าที่ผมพอจะมีความรู้นิดหน่อยขอแจ้งว่า อุณหภูมิของการจุดระเบิดของแอลพีจีถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 130 องศา เอ็นจีวีน่าจะ 150 องศา หรือมากกว่า แต่คนติดไม่ค่อยพูดกันเรื่องนี้เน้นแต่พูดเรื่องประหยัดครับ ถ้าพูดแบบนี้คนติดแก๊สทั้งหลายคงพอเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมไอ้รถที่พวกคุณ ๆ ทั้งหลายขับไปลุ้นไปมันเพราะอะไร สามวันดีสี่วันไข้เพราะเรื่องของเจ้าความร้อนเนี่ยหล่ะครับ อย่างที่กราบเรียน ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ ไว้ให้เซียนเค้ามาตอบจะดีกว่า แต่ถามว่าติด HGV แล้วเย็นจริงไม๊ตอบได้ว่าจริงครับ เย็นลงน่าจะสัก 10-20 องศาได้ครับ วัดเหรอครับ รู้จักเทอร์โมมิตเตอร์ที่ขายตามตลาดนัดก็วัดได้ครับ ไม่ยาก คงต้องพอแค่นี้นะครับไว้ให้เซียนมาตอบน่าจะดีกว่า เพราะว่าผมแค่คนชอบรื้อเท่านั้นครับ
    22 ก.ย. 2553 , 22:22:42 น
    ข้อความโดย: Passat B4 ลพ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    สงสัยเรื่องติด HGV แล้วเครื่องเย็นลงครับ ได้ยินมานานครับ จริงหรือเปล่าครับ เย็นลงเท่าไรครับ แล้ววัดอย่างไร แล้วอีกอย่างเครื่องเย็นลงมันลดการสึกหรอจริงหรือครับ สงสัยจริงๆครับ(ไม่ได้ลองภูมิ ไม่ได้มากวนนะครับ) เคยได้ยินมาว่าเครื่องเย็นทำให้เกิดการสึกหรอมากขึ้นรถยนต์โดยทั่วไปจึงต้องติดเทอร์โมสตัทเพื่อให้เครื่องร้อนที่อุณหภูมิทำงาน (ถ้าเอาเทอร์โมสตัทออกเครื่องจะเย็นเกินไปทำให้เกิดการสึกหรอมาก) ซึ่งปกติอุณหภูมิทำงานของเครื่อง ADY 2.0 ตัวนี้อยู่ที่ 95  ถ้ารักษาอุณหภูมิน้ำมันเครื่องอยู่ประมาณ 95 จะเป็นไปตามอุณหภูมิทำงานของเครื่องใช่มั้ยครับ จะดีมั้ยครับ หรือยิ่งต่ำยิ่งดีครับ ถ้ายิ่งต่ำยิ่งดี อุณหภูมิการทำงานของเครื่องมันมีประโยชน์อะไรครับ  
    22 ก.ย. 2553 , 19:53:40 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    กราบเรียนแบบนี้ครับไม่คุ้มเรื่องแก๊สใช่ครับ แต่ทำให้เครื่องเย็นลงยืดอายุการสึกหรอของเครื่องยนต์ อีกทั้งทำให้การวิ่งแก๊สเหมือนน้ำมัน คือผมจับสามครั้ง ได้สูงสุดที่ 380 กม ต่อแก๊ส 1 ถังครับ พอใช้แล้วได้ 450 ที่ความเร็ว สูง กับ 490 ที่ความเร็ว ไม่เกิน 120 ครับ ผมก็แค่ถามดูครับ พอดีได้มาใหม่เลยเอามาทดสอบดูครับ ไม่ได้คิดอะไรมากครับขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น หรือขอความเห็นแก๊ส หัวฉีด อีกสักคนก็น่าจะดี รบกวนด้วยครับ
    22 ก.ย. 2553 , 13:32:21 น
    ข้อความโดย: หรือว่าผิดที่แก๊สโซฮอล์
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    B4 No.175  แก๊สหัวฉีดวิ่งได้440 km

    จขกท ได้ 490 km โดยติดHGV ราคาแก๊สหัวฉีด 26,000 + HGV 26,500 = 52500 ประหยัดเพิมอีก50 km

    ดูแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ เป็นการลงทุนที่ไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่ครับ ถ้าLPG+HGVวิ่งได้ 600-700 km ก็ไปอย่าง


    22 ก.ย. 2553 , 12:29:13 น