• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ผู้เขียน หัวข้อ: วาล์วแรงดันกันกลับ  (อ่าน 7273 ครั้ง)

    golf 3 มหาชัย

    • Full Member
    • ***
    • กระทู้: 174
      • ดูรายละเอียด
    วาล์วแรงดันกันกลับ
    « เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2012, 06:49:33 pm »
    ตอนเช้าหรือจอดรถนานๆจะสตาร์ทติดยากครับ เหมือนน้ำมันมาเลี้ยงไม่พอจึงอยากทราบว่าวาล์วกันกลับอยู่จุดไหน และมีวิธีตรวจสอบอย่างไร golf 3 1.8 lpg+เบนซิล91 ปล.ใช้น้ำมันวิ่งปกติครับมีปัญหาแค่ตอนสตาร์ทอย่างเดียวครับ รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ

    โกเล็ก

    • บุคคลทั่วไป
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2012, 01:57:30 pm »
    :-\อาการนี้เป็นมานานแล้วหรือเพิ่งมาเป็นตอนติดแก็ส

    mr.boone

    • บุคคลทั่วไป
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2012, 07:49:57 pm »
                 เป็นเหมือนกันเลยครับประมาณ3-4เดือนมาแล้ว แรกๆก็เป็นเฉพาะตอนเช้า แต่ตอนนี้ถ้าห่างสัก3-4ชม.ก็ต้องสตาร์ท2ครั้งเหมือนกัน  แสดงว่าน้ำมันไหลกลับเร็วขึ้นคือรั่วมากขึ้นนั่นเอง ผมลองถอดสายยางที่ต่อจากวาล์กักแรงดันดูแล้ว(วาล์วกักแรงดันรูปร่างกลมๆต่ออยู่ท้ายรางหัวฉีด ของผมb5 แรงดัน 4 บาร์ของกอล์ฟอาจจะ 3 บาร์)  ปรากฎว่าแห้งสนิทไม่มีการรั่วซึม แสดงว่าวาล์วกักแรงดันยังดี ตัวที่เสียน่าจะเป็นปั๊มติ๊คมากกว่าเพราะตัวปั๊มติ๊คก็มีวาล์วกันกลับอยู่เหมือนกัน ผมกำลังจะแปลงของเครื่องเจใส่อยู่(ของตรงรุ่นแพงเกินไป)

                 ของคุณ golf 3 ก็น่าจะลองตรวจวาล์วกักแรงดันดูก่อน ถ้าเสียก็เปลี่ยนใหม่ ถ้ายังไม่เสียก็คงเป็นที่ปั๊มติ๊คเหมือนผม ก็คงต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊คถึงจะจบ ของก็อล์ฟน่าจะถูกกว่า b5...ขอให้โชคดีครับ

    หนุ่มเชียงราย

    • Jr. Member
    • **
    • กระทู้: 68
      • ดูรายละเอียด
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2012, 08:59:16 pm »
    วิธีแก้ขัดเรื่องน้ำมันไม่พอตอนสตาร์ทก็เปิดสวิทช์กุญแจแต่ยังไม่ต้องสตาร์แล้วแช่ไว้2-3วินาทีให้ปั้มติ๊กมันสูบเข้าไปดังอืดๆสูบชดเชยให้เต็มรางหัวฉีดก่อนพอเต็มแล้วน้ำมันยังหนีออกไม่ทันก็จะมีแรงดันพอสตาร์ตได้หรือปิดกุญแจทำซ้ำอีกสักครั้งสองครั้งก่อนสตาร์ทคล้ายกับ"ไล่ลมไปในตัว"ก็พอจะแก้ขัดไปได้อยู่ครับ ยังช่วยยืดอายุของไดสตาร์ทกับแบตเตอรี่รวมไปถึงไดชาร์ทได้ด้วยเพราะไม่ต้องสตาร์ทลากยาวเพื่อรอการสูบน้ำมันให้เข้ามาเต็มไม่ต้องกลัวน้ำมันท่วมเพราะมันมัวาล์วควบคุมแรงดันปล่อยน้ำมันไหลกลับถังอยู่แล้วครับ
    แต่วิธีนี้ไมแนะนำกับระบบแกสระบบดูดเพราะถึงแม้ติ๊กแกสจะตัด2วินาทีก่อนเครื่องจะหมุนก็ตามแต่มันก็ทำให้สะสมมากเกินจุดไม่ติดสตาร์ทยากถ้าติดแล้วสำลักอาจมีแบคไฟร์ตามมาเพราะส่วนใหญ่ปรับแกส idle ไว้ค่อนข้างหนาอยู่แล้วครับ
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2012, 08:13:17 am โดย หนุ่มเชียงราย »

    golf 3 มหาชัย

    • Full Member
    • ***
    • กระทู้: 174
      • ดูรายละเอียด
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2012, 09:55:33 pm »
    ขอบคุณครับ แต่อาการที่ติดยากตอนเครื่องเย็น หรือช่วงเช้ามีข้อแนะนำมั้ยครับ ปล.เป็นหลังจากเปลี่ยนฝากสูบครับ เครียดมากๆๆๆๆเสียเงินแล้วแต่รถไม่เหมือนเดิม

    mr.boone

    • บุคคลทั่วไป
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2012, 02:40:15 pm »
    คุณหนุ่มเชียงรายครับ ปั๊มติ๊คของ b5 จะยังไม่ทำงานตอนออนสวิทช์ ต้องบิดสตาร์ทครับถึงจะทำงาน ผมเคยลองหลายครั้งแล้ว(เปิดสวิทช์แล้วเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน แล้วค่อยกลับมาสตาร์ทรถ)ไม่ได้ผลครับ เคยคิดจะต่อสายไฟตรงเข้าปั๊มติ๊คเลย ตอนเช้าเปิดสวิทช์ให้ปั๊มติ๊คทำงานจนมันหยุดแล้วค่อยสตาร์ท แต่คิด ๆ ดูแล้วน่าจะแก้ปัญหาให้ตรงจุดเลยดีกว่า คือเปลี่ยนปั๊มติ๊คก็น่าจะจบครับ

    หนุ่มเชียงราย

    • Jr. Member
    • **
    • กระทู้: 68
      • ดูรายละเอียด
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2012, 04:58:10 pm »
    ขอบคุณครับ เป็นอย่างนี้ทุกคันหรือเปล่าเป็นความรู้ใหม่สำหรับผม
    ตอนนี้ก็กำลังหาb5 1.8 สภาพดีๆหรือไม่ก็ Tdi เอาแบบตัวถังไม่มีตำหนิเอามาสลับไปธุระบ้าง
    จริงๆไม่ชอบดีเซลเพราะอย่างไรเครื่องก็ไม่เงียบเท่าเบนซินอายุมากเน้นขับสบายชีวิตไม่ต้องทำเวลาเหมือนก่อนแต่คิดเผื่ออนาคตว่ารัฐบาลเขาขายแกสแพงขึ้นช้าๆทุกเดือนแทบไม่รู้ตัวต้องคิดตรงนี้ด้วยครับ

    mr.boone

    • บุคคลทั่วไป
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2012, 07:44:35 pm »
            ช่างโฟล์คบอกผมครับคุณหนุ่มต่อแบบนี้ทุกคัน ทีแรกผมก็ไม่เชื่อแต่ทดลองแล้วใช่จริงๆ ลองสังเกตุง่ายๆขณะบิดกุญแจสตาร์ทจะได้ยินเสียงดังอื๊ด. ด. ด ต่อเนื่องพอเงียบปั๊บเครื่องก็ติด  ผมเคยใช้b4 อยู่ประมาณ7-8เดือน ถ้าเทียบกับ b5 ผมชอบ b5 มากกว่าหุ่นสวยทันสมัยภายในดูหรูกว่า เบาะนั่งกระชับตัวนั่งสบายกว่า ฟองน้ำไม่ยุบตัวเหมือน b4 เสียดายของผมเป็นรุ่นปี 99 เวลาปรับเบาะต้องใช้มือหมุนเอา ไม่สดวกเวลาจอดรอแม่บ้านนานๆ จะปรับนอนแต่ละทีต้องหมุนจนเมื่อยเลย  คุณหนุ่มต้องไปเล่นปี 01 เป็นต้นไป ถึงจะปรับเบาะด้วยไฟฟ้า  และต้องเลือกคันที่เกียร์ดีๆด้วยนะ ของผมเกียร์กระตุกเพิ่งไปทำเกียร์กับช่างเสน่ห์ หมดไปตั้งสี่หมื่นซีดไปเลย ก็มันเสียทั้งกล่องเครื่อง-กล่องเกียร์+ค่าโอเวอร์ฮอลเกียร์ด้วยเลยบานมากมาย แต่ก็สบายใจตอนนี้ขับนิ่มนวลดีถูกใจครับ คิดซะว่าฟาดเคราะห์ไปละกัน รู้งื้!ซื้อคันที่แพงๆสภาพดีๆซะเลยดีกว่า คุณหนุ่มเลือกดีๆละกัน ขับb5 แล้วจะติดใจเหมือนผม ว่าจะทิ้งไปขับstreamซะหน่อยทิ้งมันไม่ลงเลย ตอนนี้กำลังบอกขาย streamอยู่ครับ

    หนุ่มเชียงราย

    • Jr. Member
    • **
    • กระทู้: 68
      • ดูรายละเอียด
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2012, 08:38:53 pm »
    ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลดีๆ
    ใจก็คิดว่ายังไงน้ำมันดีเซลใช้ในภาคขนส่งก็คงไม่ขึ้นมากในระยะยาวจึงสองจิตสองใจระหว่างเสียงดังกับความสิ้นเปลืองเสียงดังเพราะส่วนใหญ่ผมซื้อรถแล้วไม่ค่อยได้ขายใช้นานซ่อมเองทุกอย่างกับมือรู้จุดดีจุดอ่อนทุกจุดมันผูกพันธ์ตัดใจยากคนจะมาซื้อเขามองไม่เห็นสิ่งที่เราใส่เข้าไปเราใส่ใจครับ จึงค่อยๆหาตังค์ซื้อเพิ่มให้คนในครอบครัวใช้ครับ ถ้าเก็บไม่ไหวหรือจำเป็นต้องใช้เงินไปเพิ่มทุนก็ไปฝากญาติพี่น้องเพื่อนสนิทใช้แบบขายถูกเพราะอยากให้เขาได้ของดีแต่เรายังดูแลให้อยู่เหมือนรถเราเป็นความสุขที่ได้ซ่อมงานเป็นอดิเรกครับ

    mr.boone

    • บุคคลทั่วไป
    Re: วาล์วแรงดันกันกลับ
    « ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2012, 12:06:29 pm »
       เกรงใจคุณgolf 3 มหาชัยจังถูกยึดกระทู้ซะงั้น แต่ของคุณคงเหลือแค่เปลี่ยนปั๊มติ๊คก็จบนะผมว่า ต้องขอโทษอย่างแรงคืออยากแชร์ประสบการณ์นะครับ พอพูดถึง b5 ก็อยากจะบอกปัญหาต่างๆที่เคยพบ ไม่อยากให้เพื่อนเราที่จะเล่น b5 ต้องเจอปัญหาที่เราเคยเจอ อันใหนที่เราประทับใจก็อยากบอกเหมือนกัน ถ้าคุณ golf 3 จะอั๊พไป b5 จะได้มีความรู้ไปเลือกคันที่สภาพดีๆได้ง่ายขึ้นครับ สำหรับคุณหนุ่มเชียงราย b5.5 บอดี้ดูเนืยนเส้นสายโค้งมนสวยงามผมเองก็ชอบ แต่ราคายังค่อนข้างสูงสี่แสนขึ้น แต่ตัวb5 ตอนนี้ถูกสุดๆบางคันต่ำกว่าสองแสนด้วยซ้ำ ถ้างบน้อยก็ b5 แต่ถ้าเงินเยอะก็ b5.5 พวก2.3หรือ tdi ก็ตามชอบครับคุณหนุ่มเชียงราย...โชคดีนะครับ