• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ตอบ

    Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
    Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
    ชื่อ:
    อีเมล์:
    หัวข้อ:
    ไอค่อนข้อความ:

    Verification:
    Type the letters shown in the picture
    Listen to the letters / Request another image

    Type the letters shown in the picture:
    ตัวย่อของเมืองหลวงของเรา ๓ ตัว:

    shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


    สรุปหัวข้อ

    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ขอรายละเอียดเกี่ยวกับ รีเลย์เบอร์ 53 หรือ ANSI No.53 หน่อยครับ
    22 ก.พ. 2012 , 22:45:31 น
    ข้อความโดย: sara
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    แผงฟิวส์และรีเลย์ของรถ vm goft gl 1.8L 1997 ไม่ทราบว่าฟิวส์และรีเลย์แต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้างครับ แผงระบุหน้าที่ใต้พ่วงมาลัยหายครับ
    รีเลย์เบอร์ 72 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 99. ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 36 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 53 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 167 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 191 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 175 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 18 ทำหน้าที่อะไร
    รีเลย์เบอร์ 53 ทำหน้าที่อะไร
    ลองหาดูตามเว็บต่างก็ไม่พบ
    ตอนนี้ตรวจฟิวส์และรีเลย์ทั้งหมดแล้วยังสตาร์ทไม่ติด เหลือคอยล์จุดระเบิดที่ยังไม่เปลี่ยน อยากตรวจสอบวงจรไฟฟ้าทั้งหมดก่อน

    22 มี.ค. 2553 , 23:22:40 น
    ข้อความโดย:
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ให้คำแนะนำดีมากๆ เลย อย่ากรู้ว่าเวลาอากาศหนาววิธีไหนที่ทำให้เครื่องติดเร็ว สตาร์ทแค่ไม่ถึง2ครั้งติดมีไหมเอ่ย
    22 ต.ค. 2552 , 12:34:38 น
    ข้อความโดย: FCUKRAPOKE
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    โห..รูปแรกออยเกียร์แบบเดิมยังอยู่ แต่รูปสองหายไปซะละ

    ชกถ. เครื่องสวยเน้อะ

    31 ต.ค. 2551 , 12:35:01 น
    ข้อความโดย: คนรักรถ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    เอ....อ่านไปอ่านมาก็งงงง ครับ ขออนุญาตนิดนึงนะครับ ถ้าเสียง"ตืด" ที่ว่ามานั้นหมายถึงเครื่องหมุน ก็ไม่ต้องอ่านต่อนะครับ ที่จะว่ามาข้างล่างนี้ เป็นเรื่องที่สาตร์ทไม่ติดโดยที่เครื่องยนต์ไม่หมุนนะครับ

    ท่าน จขกท. แจ้งว่า
    1. ตอนเช้าสตาร์ทไม่ติด มีเสียงดัง ตืด ไม่ดังแชะ เสียงเหมือนไฟไม่พอจะดึงโซลินอยด์มอเตอร์สตาร์ทให้ทำงานนะครับ เครื่องยนต์ก้ไม่หมุนด้วย ก็เลยวัดไฟได้ 12 โวล์ทกว่าๆ การตีความในข้อ 1. นี้หล่ะสำคัญที่สุด ถ้าเครื่องไม่หมุน ให้ตัดเรื่องคอยล์จุดระเบิดออกไปก่อนครับ (แต่ถ้าเครื่องยนต์หมุน ต้องกักตัวไว้ก่อนอย่าเพิ่งปล่อยไป อ้าว......แล้วถ้าเครื่องหมุน เค้าจะอ่านมาถึงตรงนี้มั้ยเนี่ยะ)
    2. ก็เลยไม่ได้ขับ VW คันดังกล่าวไปทำงาน ใช่ไหมครับ จอดอยู่เฉยๆเหมือนเดิม
    3. พอกลับมาจากทำงาน มาถึงบ้านก็ลองสตาร์ทดู เครื่องติดตามปกติ ติดแล้วติดเลยด้วย คือสตาร์ทกี่ครั้งก็ติด ข้อนี้น่าจะหมายถึงว่า แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นะครับ
    4. พอมาเช้าอีกวัน ก็สตาร์ทไม่ติดอีกละ
    5. หลังจากสตาร์ทติดในตอนเย็นวันหนึ่ง ก็เลยวัดไฟ ได้ 13 โวล์ทกว่าๆ แสดงว่าไดชาร์จก็ยังดีอยู่นะครับ

    ถ้าเครื่องไม่หมุน ย้ำ มีเสียงตืด แต่เครื่องไม่หมุนนะครับ น่าจะเกิดจากสิ่งที่แปรผันตามอุณหภูมิของบรรยากาศรอบๆ ช่วงนี้อากาศเย็นกว่าปกติ เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ ตอนเช้าอากาศจะเย็น แต่ตอนเย็นจะผ่านความร้อนในช่วงกลางวันมาแล้ว จะร้อนกว่าตอนเช้า อะไรที่ทำให้ไม่มีไฟตอนเครื่องเย็นเฉียบ แต่มีไฟตอนเครื่องไม่เย็นมาก

    ลองเรื่องง่ายๆก่อนนะครับ ไม่น่าเชื่อและไม่อยากจะเชื่อคือขั้วแบตเตอรี่ อาจเพิ่งเริ่มหลวมและ/หรือสกปรก ทำให้เวลาอากาศเย็น อะไรอะไรก็หดตัว (อ๊ะๆๆๆ อย่าคิดมากนะครับ วิทยาศาสตร์ครับ วิทยาศาสตร์) ทำให้ขั้วที่เกือบหลวมเลยหลวมซะ ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าได้ไม่มากพอเลยมีเสียง ตืด ของโซลินอยด์ที่สั่นเมื่อกระแสไฟฟ้าไม่พอ พออากาศอุ่นขึ้นขั้วก็จะขยายตัวแน่นขึ้นนิดนึง ทำให้ส่งไฟพอที่จะสตาร์ทได้

    วิธีเช็คก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยววันนี้ยังไม่ต้องทำอะไร พอพรุ่งนี้เช้าเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ตอกได้ไว้อันนึง แล้วเราก็ไปสตาร์ทรถ ถ้ามันสตาร์ทติดก็แปลว่าอย่าลบหลู่ เอ๊ย...ให้เอาอุปกรณ์อันนั้นใส่รถไปด้วย ที่นี้ถ้าสตาร์ทไม่ติด ให้เอาอุปกรณ์ที่ว่า เคาะที่ขั้วแบตเตอรี่สักโป๊กนึง ทั้ง 2 ขั้ว หรือ ขั้วเดียวก่อนก็ได้ แล้วลองสตาร์ทดู ถ้าสตาร์ทติดก็ดับเครื่องซะ ก็หาเครื่องมือมาถอดขั้วแบตเพื่อทำความสะอาด ทาจารบีบางๆ แล้วใส่และขันให้แน่น ปัญหาน่าจะจบ

    แต่ถ้าเคาะแล้วไม่ติด ขั้วก็แน่นดี ลองเปลี่ยนใจไปใช้ศาสตร์แขนงอื่นช่วยอีกทางนึง ดีมั้ยครับ  บรื๊อ........ไม่เชื่อ......อย่าลบหลู่.......

    30 ต.ค. 2551 , 16:52:29 น
    ข้อความโดย: คนรักรถ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    เอ....อ่านไปอ่านมาก็งงงง ครับ ขออนุญาตนิดนึงนะครับ ถ้าเสียง"ตืด" ที่ว่ามานั้นหมายถึงเครื่องหมุน ก็ไม่ต้องอ่านต่อนะครับ ที่จะว่ามาข้างล่างนี้ เป็นเรื่องที่สาตร์ทไม่ติดโดยที่เครื่องยนต์ไม่หมุนนะครับ

    ท่าน จขกท. แจ้งว่า
    1. ตอนเช้าสตาร์ทไม่ติด มีเสียงดัง ตืด ไม่ดังแชะ เสียงเหมือนไฟไม่พอจะดึงโซลินอยด์มอเตอร์สตาร์ทให้ทำงานนะครับ เครื่องยนต์ก้ไม่หมุนด้วย ก็เลยวัดไฟได้ 12 โวล์ทกว่าๆ การตีความในข้อ 1. นี้หล่ะสำคัญที่สุด ถ้าเครื่องไม่หมุน ให้ตัดเรื่องคอยล์จุดระเบิดออกไปก่อนครับ (แต่ถ้าเครื่องยนต์หมุน ต้องกักตัวไว้ก่อนอย่าเพิ่งปล่อยไป อ้าว......แล้วถ้าเครื่องหมุน เค้าจะอ่านมาถึงตรงนี้มั้ยเนี่ยะ)
    2. ก็เลยไม่ได้ขับ VW คันดังกล่าวไปทำงาน ใช่ไหมครับ จอดอยู่เฉยๆเหมือนเดิม
    3. พอกลับมาจากทำงาน มาถึงบ้านก็ลองสตาร์ทดู เครื่องติดตามปกติ ติดแล้วติดเลยด้วย คือสตาร์ทกี่ครั้งก็ติด ข้อนี้น่าจะหมายถึงว่า แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นะครับ
    4. พอมาเช้าอีกวัน ก็สตาร์ทไม่ติดอีกละ
    5. หลังจากสตาร์ทติดในตอนเย็นวันหนึ่ง ก็เลยวัดไฟ ได้ 13 โวล์ทกว่าๆ แสดงว่าไดชาร์จก็ยังดีอยู่นะครับ

    ถ้าเครื่องไม่หมุน ย้ำ มีเสียงตืด แต่เครื่องไม่หมุนนะครับ น่าจะเกิดจากสิ่งที่แปรผันตามอุณหภูมิของบรรยากาศรอบๆ ช่วงนี้อากาศเย็นกว่าปกติ เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว ระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ ตอนเช้าอากาศจะเย็น แต่ตอนเย็นจะผ่านความร้อนในช่วงกลางวันมาแล้ว จะร้อนกว่าตอนเช้า อะไรที่ทำให้ไม่มีไฟตอนเครื่องเย็นเฉียบ แต่มีไฟตอนเครื่องไม่เย็นมาก

    ลองเรื่องง่ายๆก่อนนะครับ ไม่น่าเชื่อและไม่อยากจะเชื่อคือขั้วแบตเตอรี่ อาจเพิ่งเริ่มหลวมและ/หรือสกปรก ทำให้เวลาอากาศเย็น อะไรอะไรก็หดตัว (อ๊ะๆๆๆ อย่าคิดมากนะครับ วิทยาศาสตร์ครับ วิทยาศาสตร์) ทำให้ขั้วที่เกือบหลวมเลยหลวมซะ ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าได้ไม่มากพอเลยมีเสียง ตืด ของโซลินอยด์ที่สั่นเมื่อกระแสไฟฟ้าไม่พอ พออากาศอุ่นขึ้นขั้วก็จะขยายตัวแน่นขึ้นนิดนึง ทำให้ส่งไฟพอที่จะสตาร์ทได้

    วิธีเช็คก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยววันนี้ยังไม่ต้องทำอะไร พอพรุ่งนี้เช้าเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ตอกได้ไว้อันนึง แล้วเราก็ไปสตาร์ทรถ ถ้ามันสตาร์ทติดก็แปลว่าอย่าลบหลู่ เอ๊ย...ให้เอาอุปกรณ์อันนั้นใส่รถไปด้วย ที่นี้ถ้าสตาร์ทไม่ติด ให้เอาอุปกรณ์ที่ว่า เคาะที่ขั้วแบตเตอรี่สักโป๊กนึง ทั้ง 2 ขั้ว หรือ ขั้วเดียวก่อนก็ได้ แล้วลองสตาร์ทดู ถ้าสตาร์ทติดก็ดับเครื่องซะ ก็หาเครื่องมือมาถอดขั้วแบตเพื่อทำความสะอาด ทาจารบีบางๆ แล้วใส่และขันให้แน่น ปัญหาน่าจะจบ

    แต่ถ้าเคาะแล้วไม่ติด ขั้วก็แน่นดี ลองเปลี่ยนใจไปใช้ศาสตร์แขนงอื่นช่วยอีกทางนึง ดีมั้ยครับ  บรื๊อ........ไม่เชื่อ......อย่าลบหลู่.......

    30 ต.ค. 2551 , 16:52:17 น
    ข้อความโดย: หนึ่ง
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    อาการคือ เช้าๆ จะไม่เคย สตาต ติดเลย

    แต่พอขับไปคน เครื่องร้อนแล้ว... ดับไป (โดยที่ อุณหภูมิเครื่องยังร้อนอยู่) สามารถ สตาท ติดทุกครัง(อาการแรก หลังๆบางครั้งก็ สตาทไม่ติด) แต่ถ้าจอดนาน จะสตาต ไม่ติด

    วิธีตรวจสอบว่า น้ำมันท่วมหรือเปล่า นะครับ

    จะมี ปลั๊ก 4 ขา ใต้ แท่นวางหัวฉีดอยู่ ถ้าสตาต หลายๆครั้ง ไม่ติด ลองไปชักปลั๊กตัวดังกล่าวออก
    แล้วลอง บิด สตาท ดู มันจะเผาเชื้อเพลิงที่จ่ายเกินมา จะเหมือนว่า สตามติด แล้ว เครื่องจะ มอดไป
    ------------------------------------------------------------------

    อาการ สตาท ไม่ติดเพราะ น้ำมันท่วม ส่วนใหญ่ ตอนสตาท รถ จะดูเหมือนว่า รถจสตาทติด.. แต่ เครื่องจะมอดดับไป

    และพอสตาทครั้งต่อๆไป ก็จะไม่ติด
    ----------------------------------
    วิธีการแก้ ต้องหาผู้ช่วย... หลังจาก น้ำมันท่วม.. ให้ชัปลํกตัวจ่ายไฟหัวฉีดออก แล้ว สตาทเครื่อง จนน้ำมันที่ท่วม หมดไป(ในกรณีที่เผลอไปตาท หลายๆครั้งแล้วนะครับ)

    ถ้า ยังไม่เคย สตาทเลยให้เสียบปลั๊ก จ่ายไฟหัวฉีด สตาท หนึ่งครั้ง ให้เครื่อง มอด ดับไป..  (ให้หัวเครื่องมี น้ำมันเลี้ยง)
    แล้ว
    ถอดปลั๊ก สตาทเครื่อง... พอได้ยินยังหวะเครื่องทำงาน ให้ เสียบ ปลั๊ก หัวฉีด พร้อม เร่งคันเล่งทันที

    ทีนี้จะไม่ดับแล้ว
    -------------------------
    ส่วนเรื่องอาการ เซนเซอร์ความร้อนเสียเนี่ย... สังเกตุยากครับ

    เพราะหลังจากมองหน้าช่างวันนั้น ก็เอา Box มากดกันดูใหม่.. มันไม่โชว์อะไร Error แจ้งมา

    บุญที่ลองกดไปดูที่สถานะ ของรถ...ก็เลยเจอจุดโดยบังเอิญ

    เซนเซอร์ตัวนี้ ไม่แพงครับ แต่ว่าจะดูยังไงว่ามันเสียหรือเปล่า ผมไม่รู้จริงๆ

    อีกอย่างนึงคือ การที่ เซนเซอร์เสีย อาจจะแจ้งสถานะอื่น ที่ไม่ใช่ อุนภูมิรถเย็นเกินไป

    ต้องเอา BOX มาตรวจดูครับ

    30 ต.ค. 2551 , 16:09:21 น
    ข้อความโดย: หนึ่ง
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    อ่อ เคย อีกเคส นึงครับ

    หัวเฟือง ไดสตาสหลวม... จอดที วัดดวง ที ติ หรือไม่ ติดน้อ...

    ของ VW เป็น Bosch หมุนซ้าย.. นะครับ

    30 ต.ค. 2551 , 15:48:45 น
    ข้อความโดย: noi vento
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    มารายงานผลค่ะ เมื่อวานตอนเย็นพอกลับถึงบ้านลองสตาร์ทดูก็เป็นไปตามคาดคือสตาร์ททีเดียวติดค่ะ เลยวัดไฟที่แบตตอนสตาร์ทติดตามที่คุณหมุกเหล็กไฟแนะนำวัดได้ประมาณ 13.6 vdc ค่ะอย่างนี้แสดงว่าแบตปกติใช่มั้ยคะ คราวนี้ก็เลยลองดับเครื่องแล้วลองสตาร์ทใหม่อีก 4-5 ครั้งก็สตาร์ทได้ทุกครั้ง แต่พอมาวันนี้ตอนเช้าก็สตาร์ทไม่ได้อีกแล้วค่ะยังกะถูกตั้งเวลาไว้เลย วันนี้เลยลองดูที่คอยล์ปรากฏว่าไม่มีประกายไฟค่ะ แต่มีข้อสงสัยค่ะไม่รู้ว่าทำถูกวิธีรึเปล่าคะ คือดึงสายตรงกลางที่จานจ่ายออกมาถือใกล้ๆกับน๊อตยึดฝาสูบให้คนไปสตาร์ทแล้วดูว่ามีประกายไฟรึเปล่า

    คุณหมุกเหล็กไฟคะที่บอกให้เอาจ่อตรงบริเวณน๊อตยึดฝาสูบนี้หมายความว่าถือใกล้ๆ หรือวางทาบติดเลยคะ ส่วนการ jump สายที่มอเตอร์สตาร์ทดูแล้วหน้ากลัวจัง ไม่กล้าทำค่ะ

    คุณหนึ่งคะ ตอนนั้นรถคุณหนึ่งอาการเป็นยังไงคะ แล้วเซนเซอร์ความร้อนนี้เช็คยังไงได้บ้างคะ ไม่รู้เช็คยากรึเปล่า

    มีใครพอจะแนะนำอะไรได้อีกไหมคะ ถ้าพรุ่งนี้สตาร์ทไม่ติดอีกวันเสาร์คงจะตามช่างเข้ามาดูให้แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

    30 ต.ค. 2551 , 15:48:30 น
    ข้อความโดย: หนึ่ง
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ผิด ครับ 2E ของ B4 ^^' แก้คำผิดหน่อย
    30 ต.ค. 2551 , 15:43:42 น
    ข้อความโดย: หนึ่ง
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ป่าวครับ

    ไป Copy รูปมาจาก One2car ครับ พอดีอยู่ที่ทำงาน ไม่มีเวลาไปถ่าย

    รถผม เอาไปวา 4A-FE ซัก 1ปีได้แล้ว ยังรู้สึกช้ำใจอยู่ทุกวันนี้เลย

    ใจอยากจะกลับมาวาง พวก 2E ของ B5 แทน

    แต่.. ก้อคงไม่แล้วหละครับ คง สอย A3 ของพี่สาวมาใช้แทน เพราะ แกจะเปลี่ยนรถแล้ว

    ยังไงก็ยังรัก Audi-VW อยู่ดี

    30 ต.ค. 2551 , 15:42:25 น
    ข้อความโดย: ห มุ ก เ ห ล็ ก ไ ฟ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ถ้าเป็นรถ คุณ หนึ่งเองจากรูป ดูแลหน่อยนะท่าน มีเยิ้มหลายจุด โดยเฉพาะoilเกียร์

    จขกท ทำไปถึงใหนแล้ว? รายงานด้วยจ๊ะ

    30 ต.ค. 2551 , 15:37:03 น
    ข้อความโดย: หนึ่ง
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    อันนี้ ประสบมากับตัวเองครับ Start ไม่ติด

    ลื้อมันทุกอย่าง...... จนนั้งมองหน้ากับช่าง จะเอายังไงกับมันดี

    ตอนนั้น คือน้ำมันท่วม สตาต ไม่ติด....

    เกิดจาก... เซนเซอร์ความร้อน ตรงสายน้ำที่วนเข้าเครื่อง ครับ  เซนเซอร์ตัวนั้นเสีย

    ทำให้ ECU จ่ายน้ำมันมากกว่าปรกติ ทำให้เกิดอาการ น้ำมันท่วมเนื่องจาก ECU ตัวบังคับจ่ายน้ำมัน Detect "ว่ารถจอดตากน้ำแข็งอยู่" !!!!


    30 ต.ค. 2551 , 14:25:02 น
    ข้อความโดย: คนรักรถ
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ว๊าว....ว.......ว.......ว..............  ซุ๊ดหยอด หญิงไทยใจ VW
    30 ต.ค. 2551 , 13:46:34 น
    ข้อความโดย: FCUKRAPOKE
    « เมื่อ: เมษายน 01, 1998, 09:56:35 am »

    ผู้หญิงสมัยนี้เก่งกว่าตูซะอีก ขอปรบมือให้จ้ะ
    30 ต.ค. 2551 , 11:21:12 น