เล่าสู่กันฟังนะครับ เมื่อวานนี้ผมใช้รถไปข้างนอกมา ขับไปสักพักได้กลิ่นไหม้จากในรถแต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ก็เลยรีบปิดแอร์ ปิดวิทยุรถทันที แล้วก็ลองพยายามใช้จมูกนี่แหละดมกลิ่นหาที่มาดู (ปกติก็คัดจมูกอยู่แล้วด้วย) สักพักหาที่มาไม่เจอ พอดีสัญญาณไฟเขียวก็ออกรถ แล้วก็ลองเปิดแอร์ดู ทันทีที่เปิดมีเสียงดัง " ปัก " เป็นเรื่องสิครับ งานนี้ รถออกอาการ เรียวแรงหาย เร่งไม่ขึ้น ระบบไฟทุกอย่างเหมือนโดนสับคัทเอาท์ทันที กระตุกๆสักพักทำท่าจะดับ เห็นท่าไม่ดี เลยรีบขอทางเอารถหลบข้างทางทัน แล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความสงบครับ สงบมาก บิดสวิสซ์กุญแจแล้ว เ ฉ ย เงียบเลย ระบบไฟทุกอย่างหายไปหมด อาการนี้รู้เลยว่าหมดสิทธ์เข็น ชัวร์ โชคดีมาดับหน้าร้านแบต เลยให้เขาช่วยเช็คไฟให้ ไฟแบตเต็ม แต่พอมาเช็คหน้ารถ ไฟหายไปไหนหมด ( จะไปเที่ยวkaraoke ก็ใช่เรื่อง) ไล่ไปไล่มาเจอครับ พรมไหม้เลย ดีนะที่ยังไม่ถึงกับติดไฟลุกพริบขึ้นมา ไม่งั้นเป็นเต่าย่างแน่ สาเหตุมาจากช่างไฟเจ้าก่อนนี้ เขาเดินไฟไว้ไม่ดี ไปทำแบบปลั๊กเสียบต่อไว้ (แยกสายไฟชุดหน้ากับสายไฟชุดหลังออกจากกันแล้วเดินมาชนกันอีกทีสงสัยทำกันสองคนมั้ง) ไอ้ตัวเสียนี้แหละ ตัวดี เล่นเอาเกือบเสียรถไปทั้งคันเลย เลยให้ช่างไฟจั๊มสายให้ใหม่ คราวนี้เลือกใช้ตัวต่อแบบมีคุณณภาพเหมาะกับตามแต่กระแสไฟและขนาดประเภทสายไฟที่เลือกใช้ จ่ายไป 150 บาท งานนี้ทำให้ได้บทเรียนและประสบการณ์มาอีกเรื่อง ก็ขอเตือน เพื่อนๆที่ใช้รถด้วยกัน ว่างๆ ลองเช็คสายไฟดูหน่อยก็ดีครับ ว่าช่างเขาเดินแบบ สายต่อสายรึเปล่า อันตรายครับ อันตราย
[ 30 ต.ค. 2544 , 09:05:42 น