• ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป



  • กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

    เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

    ผู้เขียน หัวข้อ: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก  (อ่าน 2301 ครั้ง)

    คนเมืองปทุม

    • บุคคลทั่วไป
    ผมพึงซื้อรถโฟลค ซาราน เครื่องเบนซินติดแก็สมาแล้ว เจ้าของเก่าบอกปาดฝาสูบมาแล้ว ความร้อนปกติ แต่จากการทดลองใช้เวลาวิ่งตอนกลางวันในเมืองเมความร้อนอยู่ตรงกลางพอดีเลย แต่ถ้าวิ่งใกล้ๆ จะอยู่ระหว่างกึ่งกลางกับขีดแรก  เวลาเปลี่ยนเกียร์จะกระตุกแรงมากช่วงออกตัว  พอออกตัวไปแล้วก็วิ่งปกติ
    ถ้าจะลงเครื่องและเกียร์ใหม่จะใช้งบประมาณประมาณเท่าไรครับ

    EDD

    • บุคคลทั่วไป
    Re: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก
    « ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2012, 04:46:50 pm »
    เครื่องอะไรครับ  ลองตรวจสอบระบบระบายความร้อนก่อนครับ ว่าพัดลมสองจังหวะทำงานปกติหรือเปล่า
    ส่วนเกียร์ถ้าไม่แน่ใจถ่ายน้ำมันเดิมออกเลยครับ ทำเองได้ ใช้ออย์อากาศร่วมด้วยก็จะช่วยลดความร้อนน้ำมันเกียร์ลงได้เยอะครับ

    หนุ่มเชียงราย

    • Jr. Member
    • **
    • กระทู้: 68
      • ดูรายละเอียด
    Re: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 23, 2012, 01:33:31 am »
    ยังไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องเกียรครับ อาการตามโจทย์บอกว่าความร้อนปกติเครื่องไม่ร้อนและยิ่งบอกว่าเป็นตอนวิ่งใกล้เริ่มต้นออกตัวแถมยังมีเข็มวัดอุณหภูมิตกลงมาอีกไม่น่าจะเป็นเรื่องเครื่องร้อรน่าจเป็นเครื่องไม่ร้อนหรือเครื่องเย็นเกินมากกว่า น่าจะเป็นเรื่องอุณหภูมิไม่คงที่ เข็มชี้อุณหภูมิไม่ควรตกลงมาอยู่ที่ต่ำกว่ากึ่งกลางกับขีดแรก ถ้าปรกติจะคงที่ไม่มีของใครลงมาต่ำกว่าตรงกลาง ลองเช็คง่ายๆดูก่อน ถ้าไม่ใช่ค่อยไปวิเคราะอย่างอื่นไม่เสียหายครับ
    อุณหภูมิมีผลกับความหนืดน้ำมันเกียร เช็คดูก่อนว่าน้ำมันเกียรยังดีอยู่และถูกต้องตามที่เครื่องต้องการหรือเปล่า ปริมาณมากน้อยเกินไปหรือเปล่า ถ้าน้ำมันไม่ดีบวกกับอุณหภูมิไม่ถึงจุดทำงานไม่เหมาะสมแรงดันน้ำมันเกียรก็ไม่เหมาะสมที่จะทำให้คลัชทำงานได้ปรกติ
    ลองถามเจ้าของเก่าที่ซ่อมปาดฝาสูบมาว่าช่างคนเดิมกลัวเครื่องร้อนถอดวาล์วน้ำออกไปแล้วหรือเปล่า เพราะคิดว่าบ้านเราเมืองร้อนการถอดตวาล์วน้ำทำให้เครื่องไม่ร้อนเข้าใจผิดครับ

    ขอเลยนอกเรื่องมาถึงเรื่องถอดวาล์วน้ำอันตราย!!!!
    การระบายความร้อนออกจากเครื่องเป็นหน้าที่ของหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำ ปัมน้ำ และบังลมหม้อน้ำเท่านั้น ถ้าระบบเหล่านี้เอาความร้อนออกได้ไม่เท่ากับที่เครื่องเผาไหม้สร้างความร้อนขึ้นมา ความร้อนจะสะสมน้ำในหม้อน้ำจะร้อนขึ้นไหลวนกลับไปที่เครื่องยนต์อยู่ดี เครื่องจะร้อนชึ้นจนถึงจุดสมดุลความร้อนที่สร้างขึ้นกับความร้อนที่ออก
    วาล์วน้ำไม่เกี่ยวตอนที่เครื่องร้อนมันเปิดสุดๆอยู่แล้วปล่อยให้น้ำที่ผ่านการระบายความร้อนจากหม้อน้ำกลายเป็นน้ำที่ร้อนน้อยลงจากหม้อน้ำไประบายความร้อนให้เครื่อง ในกรณีที่วาล์วเปิดสุดแล้วความร้อนยังขึ้นอีกหรือไม่เย็นก็อยู่ที่ความสามารถการระบายความร้อนของหม้อน้ำ หรือแม้ถอดวาล์วออกก็ไม่ได้ช่วยอะไรก็ในเมือ่น้ำจากหม้อน้ำยังร้อนอยู่มันก็ไหลกลับไปอย่างสะดวกที่เครื่องอย่างสะดวก ยกเว้นมันเสียหรืออุดตันถ้ามันตันก็เปลี่ยนไม่ใช่ถอดทิ้ง
    ในทางกลับกัน ถ้าเครื่องเย็นวาล์วน้ำจะทำหน้าที่อุดไว้ก่อนไม่ให้น้ำเย็นเกินไปอุณหภูมิไม่เหมาะสมจากหม้อน้ำเข้าเครื่อง พออุณภูมิถึงจุดเหมาะสมในการทำงาน (เครื่องยนต์จะรู้สึกสบายๆที่อุณหภูมิ95องศาห้ามใช้ความร้สึกของตัวเราที่ว่าเย็นสบายคือ25องศา)วาล์วน้ำจะค่อยๆเปิดไม่ให้ร้อนมากกว่านี้รักษาอุณหภูมให้คงที่ถ้าร้อนมากก็เปิดมาก จนเปิดกว้างสุดที่ประมาณ100 องศาแล้วก็หมดหน้าที่ของวาล์วน้ำ และจะหรี่ลงมาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่เข็มชีตรงกลาง เช่นขับรถลงเขายาวๆเครื่องไม่ค่อยผลิตความร้อนเผาน้ำมันน้อยถอนไม่ได้เหยีบคันเร่งเหยีบแค่เบรก แต่ลมพัดผ่านหม้อน้ำมากรถวิ่งเร็ว น้ำในหม้อน้ำเริ่มมีอุณหภูมิต่ำกว่าเครื่องมาก วาล์วต้องหรี่หรือปิดไว้ ถ้าเครื่องเย็นจะสึกหรอมาก ลองคิดดูลูกสูบกับแหวนถูกจุดระเบิดเผาไฟร้อนอยู่ข้างในระบายความร้อนออกยากกว่าต้องผ่านแหวนและน้ำมันเครื่องออกมา ในขณะที่เสื้อสูบโดนไฟเหมือนกันแต่มีน้ำเย็นมาทำให้มันเย็นหดจนชิดหรืออาจรัดลูกสูบไว้เพราะอุณหภูมิต่างกันมาก เครื่องจะมีความฝืดมากขึ้น กินน้ำมันมากขึ้นเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ความดันน้ำมันเกียรไม่ตรงตามค่ากำหนดเดี๋ยวนุ่มเดี๋ยวแข็งกระด้าง อีกกรณีหนึ่งถ้าอุณหภูมิเครื่องไม่คงที่เพราะถอดวาล์วน้ำออก ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์จะร้อนสลับเย็นไม่พร้อมกันเพราะน้ำเย็นเข้าถึงเสื้อสูบก่อน การขยายตัวตามอุณหภูมิไม่เท่ากัน เกิดการขยับตัวขนาดเล็กๆสวนทางกันประจำตลอดเวลา บางชิ้นหดตัวบางชิ้นไม่ทันหด(วาล์วไอเสียกับลูกสูบไม่ค่อยหด) อย่างอืนหดก่อน หรือเกิดอาการเครื่องมีเสียงลั่นแป็กๆเพราะค่อยๆเกิดการเลื่อนขยับไปไม่พร้อมกัน ใช้ไปนานๆเครื่องรั่ว ประเก็นฝาสูบถูกเร่งให้แตก น้ำมันเครื่องถูกเร่งให้ซึมเยิ้มตามเครื่อง ตามยางตีนวาล์วต่างๆกิน้ำมันเครื่องอีก เครื่องหลวมเร็ว
    ถ้าถอดวาล์วน้ำออกอย่างไรก็ควรหามาใส่กลับคืนครับบางอย่างก็ต้องเชื่อฝรั่งบ้าง(รวมทั้งญี่ปุ่น)เขาบอกว่าห้ามถอดวาล์วน้ำเด็ดขาดถึงแม้ไม่ช่วยเรื่องเกียรโดยตรงก็ช่วยอายุการใช้งานเครื่องและลดการสิ้นเปลือง ลดมลภาวะ
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2012, 01:24:38 am โดย หนุ่มเชียงราย »

    คนปทุม

    • บุคคลทั่วไป
    Re: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 26, 2012, 02:23:47 pm »
    ขอบคุณมากครับสำหรับทุกความคิดเห็น
    ตอนนี้ส่งรถไปที่อู่แถวลาดปลาเค๊า24
    ช่างบอกเครื่องไม่ค่อยมีแรงควรเปลี่ยนเครื่องใหม่(เปลี่ยนเครื่องady+ค่าแรง 2หมื่นบาท)
    ส่วนเกียร์ช่างบอกกระตุกแรงมาก ถ้าล้างวาล์วบอดี้กับถ่ายนำมันเกียร์ไม่น่าจะหายแนะนำให้ซ่อมเกียร์ใหม่(สามหมื่นกว่า)
    รวมเปลี่ยนเครื่อง+ซ่อมเกียร์ ค่าของ+แรง 58,000 บาท
    ถ้าเป็นเครื่องvr6+เกียร์มาทั้งแพ ได้หม้อนำใหม่ รวมค่าแรงวาง 98,000 บาท
    ยังไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี

    dorn

    • Hero Member
    • *****
    • กระทู้: 670
      • ดูรายละเอียด
    Re: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก
    « ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 05:13:13 am »
    งานเริ่มเข้า  ลองถามผู้รู้หลายๆท่านดูว่าจะแก้ไขอย่างไร   เอาใจช่วย

    EDD

    • บุคคลทั่วไป
    Re: โฟลค ซาราน เครื่องร้อน เกียร์กระตุก
    « ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 10:14:54 am »
    น้ำมันเกียร์พี่ตรวจสอบด้วยว่าอู่ใช้ของเกรดไหน  ผมเปลี่ยนถ่ายครั้งล่าสุดอู่ใช้ PPT AFT ใส่มาก็ถามแล้วว่าใช้ได้ด้วยเหรอ เขาบอกว่าใช้ได้ สิ่งที่ผมเจอคือ เกียร์วืด ,เกียร์ไม่เปลี่ยน ต้องจอดแล้วรีเซตECUเกียร์ถึงพอไปได้ พอดีผมมีสาย AVG-COM จึงลองจับดูพบว่า อุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงถึง 135 C   ไกล้จุดพินาศแล้ว ทั้งๆวิ่งไม่เกิน110 km/Hr ตอนนั้นคิดว่าต้องถ่ายนำมันเกียร์ออกแน่นอน ไปวรจักร ร้านแนะนำให้ใช้ Total Fluide AT Long life  550 บาท/ลิตร เขาบอกว่าจุดเดือดอยู่ที่ 240 C ส่วนของ VW แพงสุด จำราคาไม่ได้ครับ ผมยังไม่ตัดสินใจตอนนั้นหา data sheet ของ TOTAL ได้แล้วขอมูลส่วนใหญ่ก็ตรงกับเถ้าแก่เขาแนะนำ แต่ผมไปเจอในyoutube ฝรั่งถ่ายนำมันเกียร์passat ที่ใเกียร์ auto 01M โดยใช้ น้ำมันของ vavoline MAX Life ATF ตัวนี้ในบ้านเราขาย 250 บาท/ลิตร ดูจากdata sheet แล้วspecคร่าวๆพอๆกัน ผมเลยขอลองด้วยคน ถ่ายเอง หมดน้ำมันไปเกีือบ 4 ลิตร และผมใช้ออยอากาศด้วย ออยอกาศผมซื้อออยเกียร์มาจากเชียงกง เป็นของdenso ไม่ทราบว่าใส่มากับรถอะไร ซื้อมา 800 บาท นำมาล้างแล้วทำสีใหม่ ติดตั้งกับสายไฮดรอลิค ผลที่ได้คือ อาการวืด เกียร์ไม่เปลี่ยน หายสนิท อุหภูมิน้ำมันเกียร์ ที่ความเร็ว 130 km/hr ประมาณ 95 C  หลังจากถ่ายน้ำมันเกียร์ก็ใช้งานมาเกือบ 4000 km แล้วครับ ยังไม่เจอปัญหาครับ ... :) :)