ข้อความโดย: vw vento 16 วาวล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 09:33:06 am » สวัสดี เช่นกันครับ คุณ. dorn สบายดีครับ มาพักผ่อนหรือครับ 
ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป
ข้อความโดย: dorn
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2013, 09:29:03 pm »คุณvw vento 16 วาล์ว สบายดีนะครับ
ไประยองอยูุ่ 2 ครั้งๆหลายวัน คิดว่าจะโทรหาอยู่ก็ลืมทุกครั้ง
คราวหน้าไม่ลืมแน่นอน
ไประยองอยูุ่ 2 ครั้งๆหลายวัน คิดว่าจะโทรหาอยู่ก็ลืมทุกครั้ง
คราวหน้าไม่ลืมแน่นอน
ข้อความโดย: dorn
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2013, 09:02:53 pm »ดีครับ ช่างเณร เรื่องน้ำ b4 แล้วเรื่องน้ำt4หนาส้้นกับหน้ายาว ช่วยอธิบายให้พวกรถตู้ให้ทราบหน่อยครับ
ข้อความโดย: vw vento 16 วาวล์
« เมื่อ: มิถุนายน 28, 2013, 01:03:01 am »อย่าเลยครับผมว่าทุกสิ่ง ของระบบ vw เขาคงออกแบบมาดีแล้ว ทนแล้ว นอกจากระบบฮีทเตอร์ ถ้าจะให้ speed 2 ทำงานตลอด ผมว่าอย่าเลย อย่าพยายามทำเลยด้วย ของผม speed2 ไม่อยากทำงาน ยังอยากให้ทำงานบ่อยๆเลย อย่างน้อย ถ้าระบบน้ำของเราใหลเวียนดี ระบบแอร์ hi ดีน้ำยาแอร์ไม่ขาด ความร้อนเหมาะสม กับอุณภูมิของเซ็นเซอร์มันก็ทำงานของมัน auto อยู่แล้ว อีกอย่างมันก็ทำให้เราใด้รู้ว่า ห้องเครื่องของเรา ระบบระบายความร้อนของเราสมบูรณ์ดี ส่วนเรื่องเสียงนั้น ผมไม่เถียงครับ ดังแน่ ก็อย่างว่า ดังเพื่อให้รู้ว่า speed1 กับ speed2 มันทำงานมั้ง เสียงเลยต่างกัน ความเสียหาย หรือกินไฟมากมั้ย ผมไม่รู้ครับ (ถ้าใดชาจ)ดีๆผมเคยแค่ speed2 ทำงานตลอด แค่บิดสวิสซ์ออนกุญแจไม่สต๊าสซ์เครือง ก็ติดเลย เป็นอาทิตย์ ก็ยังขับจาก สมุทรสาคร ไป เชียงใหม่ ใด้เลยกลับใด้ด้วย ผมนึกว่ามันคงระบายความร้อน ดีมั้งเลยปล่อยมัน พอกลับมาเจอช่าง vw แท้ๆ เท่านั้นแหละ แกะดู ฟิวล์ใหม้ไปขานึงมัน เลยติดตลอด ผมเปลี่ยนลีเลย์เลยครับ มือ2 เรื่องเสียง่ายมั้ย รถผม มือ2 9 ปีเกือบ10แล้ว ยังไม่เคยเปลี่ยนพัดลมเลย (คงใกล้)ในเร็วๆนี้มั้ง ทั้ง ตัวมอเตอร์ และ ตัวตาม ให้มันทำงานเถอะมันไม่เครียดนะเวลารถติด.........(เป็นแนวทางนะ)........เพราะผมไม่ใช่ผู้รู้.......ผมก็ขโมยความรู้จากที่นี่เหมียนกัล..ล์..
ข้อความโดย: เวนโต้น้ำรั่ว
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2013, 08:43:19 pm » ขอโทษทีครับแบบผมถามไม่ดีเอง จะถามว่าถ้าให้ทำที่speed2 อย่างเดียวเลย จะมีความเสียหายตามหลังไหม ขอบคุณครับ
ข้อความโดย: kitti
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2013, 02:27:02 pm »ผมว่า พัดลม สปีดสอง นี่ กินไฟมาก และ เสียงดัง มาก ครับ
ผมชอบให้เค้าเริ่มทำงานที่ สปีดแรกก่อน มากกว่า
ผมชอบให้เค้าเริ่มทำงานที่ สปีดแรกก่อน มากกว่า
ข้อความโดย: vw vento 16 วาวล์
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2013, 10:13:46 am »ผมว่ามันคงไม่น่าห่วงนะครับ พัดลมสปีด2 ทำงานบ่อยๆ ที่น่าห่วงมากกว่าก็คือ ถ้ามันไม่ค่อยทำงานนี่แหละ น่ากลัวที่สุด อากาศก็ร้อน ห้องเครื่องยิ่งร้อนกว่า 
ข้อความโดย: เวนโต้น้ำรั่ว
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2013, 12:57:58 am » แล้วถ้าเราให้พัดลมspeed 2 ทำงานบ่อยๆพัดลมมันจะเสียเร็วหรือป่าวครับ
ข้อความโดย: เวนโต้เขียว
« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2013, 11:56:05 pm » ขอบคุณครับสำหรับความรู้
ข้อความโดย: โกเล็ก
« เมื่อ: มิถุนายน 16, 2013, 06:33:07 am »
ขอบคุณครับ ช่างเณร กับความรู้ ความร้อน บี 4 ข้อความโดย: เณร
« เมื่อ: มิถุนายน 15, 2013, 11:50:19 pm » ต่อครับ......
3. วงจรฮีทเตอร์
เริ่มจากปั๊มน้ำส่งขึ้นเครื่องไหลออก ตาน้ำท้ายเครื่องทางท่อตรง ไหลเข้าฮีทเตอร์ไหลกลับเข้า
ท่อเหล็กข้างเครื่อง และไหลกลับเข้าปั๊มน้ำเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องไป ถ้าเครื่องยนต์ยังเดินอยู่
วงจรนี้แหละที่อาจะทำให้เกิดปัญหานี้
น้ำร้อนที่ไหลออกจากเครื่องจะไประบายความร้อนและส่งผ่านให้กับระบบแอร์ส่วนหนึ่ง และ
น้ำที่ไหลกลับจะเย็นลง เท่ากับว่าฮีทเตอร์มันก็คือหม้อน้ำจำเป็นไปโดยปริยาย แต่พอมัน
ถูกตัดออก และน้ำส่วนนี้ไม่ได้รับการระบายความร้อนเลย และไหลกลับเข้าเครื่องไป
น้ำในส่วนนี้ประมาณ 25%ไม่ได้ลดความร้อน พอระบบระบายความร้อนไม่สมบูรณ์เต็มร้อย
เลยเกิดอาการประมาณนี้ แล้วจะทำอย่างไรดี ไม่ยากอุดมันซะถ้าไม่ใช้ มันจะทำให้น้ำ
ส่วนนี้ไหลไปทางหม้อน้ำมากขึ้น และจะทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นเอง
แต่ปัญหาอันนี้กับ บี4 เป็นน้อยกว่า ถ้าสงสัยอ่านต่อไปเดี๋ยวรู้เอง
4. วงระบายความร้อนหม้อน้ำหลัก
อันนี้ใครๆก็รู้ว่าหลักการมันง่ายๆ ตอนเครื่องเย็นต่ำกว่า 88 องศา มันจะไม่ยอมเปิดให้น้ำไหล
ผ่านหรือไหลน้อยน้อยตามค่าความร้อนที่น้อยกว่า 88 องศา แต่มีข้อสังเกตุอย่างอาการนี้
เวนโต้ ก๊อฟ เป็นมากกว่า บี4 ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ถ้าเราไล่วงจรน้ำที่หม้อน้ำให้ดี
เซ็นเซอร์สวิทอุณหภมิน้ำที่หม้อน้ำ บี4 มันอยู่คนละตำแหน่งกับ เวนโต้ ก๊อฟ
ถ้าเราหันหน้าเข้ารถ ถ้าเป็น เวนโต้หรือก๊อฟ จากปั๊มน้ำส่งขึ้นเครื่องไหลออกตาน้ำหน้าเครื่อง
เข้าหม้อน้ำด้านซ้ายมือ มันจะไหลผ่านท่อน้ำในหม้อน้ำครึ่งบนแล้วน้ำส่วนนี้ถึงสัมผัสกับสวิทเซ็นเซอร์พัดลม
และไหลลงครึ่งล่างของหม้อน้ำ และไหลกลับเข้าปั๊มน้ำทางท่อน้ำล่าง
ส่วน บี4 พอไหลออกจากเครื่องมันจะเข้าหม้อน้ำทาง ขวามือ (หันหน้าเข้ารถ) พอน้ำร้อนเข้าหม้อน้ำ
มันจะส้มผัสกับสวิทพ้ดลมหม้อน้ำทันที ทำให้พ้ดลมทำงานได้ไวกว่าและนานกว่า พวก เวนโต้ ก๊อฟ
ปัญหาเรื่องนี้เลยเป็นน้อยกว่า แต่ตอนดับเครื่องถ้าเครื่องร้อนมากหน่อย บี4 พัดลมอาจทำนานถึง
20 นาที แต่ใน เวนโต้ ก๊อฟ พัดลมหยุดหมุนแล้วกว่า
แล้วเราจะทดลองแบบเดาๆได้อย่างไร ว่าวาล์วน้ำทำงานได้ปกติหรือป่าว.........
เริ่มแรก จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางก่อน พอธูปดับจุดใหม่ซัก 6 ครั้ง ............ ทำไม......
เครื่องเย็นสนิทพอดี จุดธูปครบตามที่บอก เอามือจับเครื่องดูเย็นสนิทยังถ้ายัง จุดต่อ
รอไปจนเย็นสนิท เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ( ห้ามเปิดแอร์ ) แล้วคอยเอามือจับท่อน้ำบนไว้
รอจนอุ่นมากหน่อย ลองท่อน้ำล่างมั่งมันจะเริ่มค่อยๆร้อนตามท่อน้ำบนแต่จะร้อนน้อยกว่านิดหน่อย
เช็คเข็มความร้อนพอได้วซัก 80 องศาท่อน้ำล่างจะร้อนเกือบเท่าท่อบนถ้าไม่เป็นตามนี้ วาล์วน้ำตาย
หรือเปิดไม่สุด ระวังนิ้วมือตอนเช็คท่อน้ำล่างด้วยนะครับ เดี๋ยวมันจะเหลือไม่ครบตามที่มีอยู่เดิม
+++++ สวิทเซ็นเซอร์พัดลม สปีท1เท่ากับ 95 องศา สปีท2 เท่ากับ 102 องศา ++++ โชคดีครับ.......
3. วงจรฮีทเตอร์
เริ่มจากปั๊มน้ำส่งขึ้นเครื่องไหลออก ตาน้ำท้ายเครื่องทางท่อตรง ไหลเข้าฮีทเตอร์ไหลกลับเข้า
ท่อเหล็กข้างเครื่อง และไหลกลับเข้าปั๊มน้ำเป็นอย่างนี้ต่อเนื่องไป ถ้าเครื่องยนต์ยังเดินอยู่
วงจรนี้แหละที่อาจะทำให้เกิดปัญหานี้
น้ำร้อนที่ไหลออกจากเครื่องจะไประบายความร้อนและส่งผ่านให้กับระบบแอร์ส่วนหนึ่ง และ
น้ำที่ไหลกลับจะเย็นลง เท่ากับว่าฮีทเตอร์มันก็คือหม้อน้ำจำเป็นไปโดยปริยาย แต่พอมัน
ถูกตัดออก และน้ำส่วนนี้ไม่ได้รับการระบายความร้อนเลย และไหลกลับเข้าเครื่องไป
น้ำในส่วนนี้ประมาณ 25%ไม่ได้ลดความร้อน พอระบบระบายความร้อนไม่สมบูรณ์เต็มร้อย
เลยเกิดอาการประมาณนี้ แล้วจะทำอย่างไรดี ไม่ยากอุดมันซะถ้าไม่ใช้ มันจะทำให้น้ำ
ส่วนนี้ไหลไปทางหม้อน้ำมากขึ้น และจะทำให้การระบายความร้อนดีขึ้นเอง
แต่ปัญหาอันนี้กับ บี4 เป็นน้อยกว่า ถ้าสงสัยอ่านต่อไปเดี๋ยวรู้เอง
4. วงระบายความร้อนหม้อน้ำหลัก
อันนี้ใครๆก็รู้ว่าหลักการมันง่ายๆ ตอนเครื่องเย็นต่ำกว่า 88 องศา มันจะไม่ยอมเปิดให้น้ำไหล
ผ่านหรือไหลน้อยน้อยตามค่าความร้อนที่น้อยกว่า 88 องศา แต่มีข้อสังเกตุอย่างอาการนี้
เวนโต้ ก๊อฟ เป็นมากกว่า บี4 ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ถ้าเราไล่วงจรน้ำที่หม้อน้ำให้ดี
เซ็นเซอร์สวิทอุณหภมิน้ำที่หม้อน้ำ บี4 มันอยู่คนละตำแหน่งกับ เวนโต้ ก๊อฟ
ถ้าเราหันหน้าเข้ารถ ถ้าเป็น เวนโต้หรือก๊อฟ จากปั๊มน้ำส่งขึ้นเครื่องไหลออกตาน้ำหน้าเครื่อง
เข้าหม้อน้ำด้านซ้ายมือ มันจะไหลผ่านท่อน้ำในหม้อน้ำครึ่งบนแล้วน้ำส่วนนี้ถึงสัมผัสกับสวิทเซ็นเซอร์พัดลม
และไหลลงครึ่งล่างของหม้อน้ำ และไหลกลับเข้าปั๊มน้ำทางท่อน้ำล่าง
ส่วน บี4 พอไหลออกจากเครื่องมันจะเข้าหม้อน้ำทาง ขวามือ (หันหน้าเข้ารถ) พอน้ำร้อนเข้าหม้อน้ำ
มันจะส้มผัสกับสวิทพ้ดลมหม้อน้ำทันที ทำให้พ้ดลมทำงานได้ไวกว่าและนานกว่า พวก เวนโต้ ก๊อฟ
ปัญหาเรื่องนี้เลยเป็นน้อยกว่า แต่ตอนดับเครื่องถ้าเครื่องร้อนมากหน่อย บี4 พัดลมอาจทำนานถึง
20 นาที แต่ใน เวนโต้ ก๊อฟ พัดลมหยุดหมุนแล้วกว่า
แล้วเราจะทดลองแบบเดาๆได้อย่างไร ว่าวาล์วน้ำทำงานได้ปกติหรือป่าว.........
เริ่มแรก จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางก่อน พอธูปดับจุดใหม่ซัก 6 ครั้ง ............ ทำไม......
เครื่องเย็นสนิทพอดี จุดธูปครบตามที่บอก เอามือจับเครื่องดูเย็นสนิทยังถ้ายัง จุดต่อ
รอไปจนเย็นสนิท เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ( ห้ามเปิดแอร์ ) แล้วคอยเอามือจับท่อน้ำบนไว้
รอจนอุ่นมากหน่อย ลองท่อน้ำล่างมั่งมันจะเริ่มค่อยๆร้อนตามท่อน้ำบนแต่จะร้อนน้อยกว่านิดหน่อย
เช็คเข็มความร้อนพอได้วซัก 80 องศาท่อน้ำล่างจะร้อนเกือบเท่าท่อบนถ้าไม่เป็นตามนี้ วาล์วน้ำตาย
หรือเปิดไม่สุด ระวังนิ้วมือตอนเช็คท่อน้ำล่างด้วยนะครับ เดี๋ยวมันจะเหลือไม่ครบตามที่มีอยู่เดิม
+++++ สวิทเซ็นเซอร์พัดลม สปีท1เท่ากับ 95 องศา สปีท2 เท่ากับ 102 องศา ++++ โชคดีครับ.......
ข้อความโดย: เณร
« เมื่อ: มิถุนายน 15, 2013, 10:54:46 pm » เรื่องระบบน้ำหล่อเย็น ปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ถ้าเจอเราจะรับมือกับมันอย่างไร
ลองอ่านข้อความนี้ดูก่อนที่จะทำอะไรลงไป บางอย่างทำง่ายแต่เอากลับคืนแบบเดิมๆยากนะครับ
อย่างน้อยการเจาะตัดต่อไปแล้ว เวลาคิดจะทำกลับคืนมันคงไม่เรียบร้อยแบบเดิมแน่จริงไหมครับ
การทำงานของระบบน้ำหล่อเย็นของ เวนโต้ ก๊อฟ บี4 สามรุ่นนี้ระบบการไหลของน้ำคล้ายกัน
มาก เอาเป็นว่าเอาเวนโต้มาเป็นต้นแบบในการทำความเข้าใจก่อนเลย....
ระบบทางเดินของน้ำหล่อเย็นในเวนโต้ จะมีการเดินของน้ำในระบบแบ่งเป็น 4 วงจรหลัก
เพื่อความเข้าใจให้ง่ายขึ้นจะเริ่มจากปั๊มน้ำเป็นจุดแรกเสมอนะครับ...
1. วงจรโปโล
จากปั๊มน้ำส่งน้ำเข้าเครื่องไหลออกตาน้ำหน้าเครื่อง และออกท่อน้ำข้างตาน้ำไหลกลับเข้าปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำก็จะปั๊มส่งขึ้นเครื่องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตอนเครื่องยนต์เย็น พอเครื่องเริ่มร้อน วาล์วน้ำ
จะเริ่มเปิดส่วนท้ายของวาล์วน้ำจะซึ่งต่อจากแกนเดียวกัน จะมีแผ่นโลหะทรงกลมค่อยๆดันมาปิด
ท่อน้ำไหลกลับ ยิ่งร้อนมากยิ่งปิดมากและจะปิดสนิทตอน ที่ความร้อนประมาณ 88 องศา
ถ้าเรียกง่ายๆตามภาษาช่าง จะเรียกว่าท่อโปโลน้ำ วงจรน้ำอันนี้จึงเอาไว้สำหรับวอร์มเครื่อง
ยนต์ ตอนเครื่องเย็นเท่านั้น ถ้าเครื่องร้อนได้ที่น้ำจะไหลน้อยลงหรือไม่ไหลเลยตอนวาล์วน้ำเปิดสุด
2. วงจรระบายความร้อนเกียร
จากปั๊มน้ำส่งน้ำขึ้นเครื่อง และไหลออกออกทางตาน้ำท้ายเครื่องทางข้อต่อข้างตาน้ำ ไหลเข้าออยร์
เกียร กลับเข้าท่อสามทางและไหลไปตามท่อเหล็กข้างเครื่อง และกลับเข้าปั๊มน้ำเป็นวงจรต่อเนื่องไป
อย่างนี้เรื่อยๆ ตลอดถ้าเครื่องยนต์ยังเดินอยู่ อุณภูมิน้ำท่อนี้จะร้อนค่อนข้างมากถ้าคันไหนติดแก๊ส
ลองเอาหม้อต้มต่อเป็นอนุกรม ก่อนเข้าออยร์เกียร จะทำให้น้ำเย็นลงก่อนที่จะไหลเข้าออยร์เกียร
จะทำให้การระบายความร้อนของน้ำมันเกียรดีขึ้นมากมาย และเป็นตัววัดค่าการไหลของน้ำที่เข้าออยร์
เกียรไปในตัว ถ้ารถกินแก๊สมากขึ้น หรือหม้อต้มเย็นก็จัดการล้างออยร์เกียรได้เลย.
ลองอ่านข้อความนี้ดูก่อนที่จะทำอะไรลงไป บางอย่างทำง่ายแต่เอากลับคืนแบบเดิมๆยากนะครับ
อย่างน้อยการเจาะตัดต่อไปแล้ว เวลาคิดจะทำกลับคืนมันคงไม่เรียบร้อยแบบเดิมแน่จริงไหมครับ
การทำงานของระบบน้ำหล่อเย็นของ เวนโต้ ก๊อฟ บี4 สามรุ่นนี้ระบบการไหลของน้ำคล้ายกัน
มาก เอาเป็นว่าเอาเวนโต้มาเป็นต้นแบบในการทำความเข้าใจก่อนเลย....
ระบบทางเดินของน้ำหล่อเย็นในเวนโต้ จะมีการเดินของน้ำในระบบแบ่งเป็น 4 วงจรหลัก
เพื่อความเข้าใจให้ง่ายขึ้นจะเริ่มจากปั๊มน้ำเป็นจุดแรกเสมอนะครับ...
1. วงจรโปโล
จากปั๊มน้ำส่งน้ำเข้าเครื่องไหลออกตาน้ำหน้าเครื่อง และออกท่อน้ำข้างตาน้ำไหลกลับเข้าปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำก็จะปั๊มส่งขึ้นเครื่องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตอนเครื่องยนต์เย็น พอเครื่องเริ่มร้อน วาล์วน้ำ
จะเริ่มเปิดส่วนท้ายของวาล์วน้ำจะซึ่งต่อจากแกนเดียวกัน จะมีแผ่นโลหะทรงกลมค่อยๆดันมาปิด
ท่อน้ำไหลกลับ ยิ่งร้อนมากยิ่งปิดมากและจะปิดสนิทตอน ที่ความร้อนประมาณ 88 องศา
ถ้าเรียกง่ายๆตามภาษาช่าง จะเรียกว่าท่อโปโลน้ำ วงจรน้ำอันนี้จึงเอาไว้สำหรับวอร์มเครื่อง
ยนต์ ตอนเครื่องเย็นเท่านั้น ถ้าเครื่องร้อนได้ที่น้ำจะไหลน้อยลงหรือไม่ไหลเลยตอนวาล์วน้ำเปิดสุด
2. วงจรระบายความร้อนเกียร
จากปั๊มน้ำส่งน้ำขึ้นเครื่อง และไหลออกออกทางตาน้ำท้ายเครื่องทางข้อต่อข้างตาน้ำ ไหลเข้าออยร์
เกียร กลับเข้าท่อสามทางและไหลไปตามท่อเหล็กข้างเครื่อง และกลับเข้าปั๊มน้ำเป็นวงจรต่อเนื่องไป
อย่างนี้เรื่อยๆ ตลอดถ้าเครื่องยนต์ยังเดินอยู่ อุณภูมิน้ำท่อนี้จะร้อนค่อนข้างมากถ้าคันไหนติดแก๊ส
ลองเอาหม้อต้มต่อเป็นอนุกรม ก่อนเข้าออยร์เกียร จะทำให้น้ำเย็นลงก่อนที่จะไหลเข้าออยร์เกียร
จะทำให้การระบายความร้อนของน้ำมันเกียรดีขึ้นมากมาย และเป็นตัววัดค่าการไหลของน้ำที่เข้าออยร์
เกียรไปในตัว ถ้ารถกินแก๊สมากขึ้น หรือหม้อต้มเย็นก็จัดการล้างออยร์เกียรได้เลย.
ข้อความโดย: vw vento 16 วาวล์
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2013, 09:02:30 pm »ผมขอขอบคุณ.ทุกๆท่านในกระทู้นี้นะครับ ในความคิดผมก็ไม่อยากจะแปลง หรือเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิม ของรถ แค่เห็นว่า พัดลมตัวตามของรถมันเริ่มที่จะมีเสียง (กลัวมันล๊อค) ไม่หมุน แล้วระบบเดิมใช้สายพานพ่วงเพื่อให้ตัวตามหมุน เท่าที่เคยอ่านเจอกระทู้เก่าๆ เห็นว่าเวลาใส่สายพาน มันยุ่งยากมากเลย ถอดเยอะมากด้วย ก็เลยคิดว่าจะลองทำ ตัวตามให้เป็นไฟฟ้า แต่ก็ยังลังเลอยู่ เพราะว่า น่าจะหาข้อมูลให้มากกว่านี้ และไม่มีความรู้ทางด้านนี้ จึงต้องมาถาม เพื่อนๆ พี่ๆ ในนี้ดู สิ่งที่ผมจะทำวันพรุ่งนี้คือ 1.เปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำ แล้วเติมคูแล้นใหม่ แล้วจะไล่อากาศให้ดีๆ 2.จะลองถอดรีเลย์ ออกมาดูตามที่พี่ นิก. เวนโต้บอก ( คุณ.ช่างเหอะ)ขอบคุณมากๆเลยนะครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
คุณ.vit314 ครับ รูปที่ให้ดูมันคืออะไรครับ แล้วมันอยู่ตรงใหนของรถครับ(ผมไม่รู้จริงๆ) ผมขอลองแก้ปัญหาเบื้องต้นดูก่อน มากกว่านี้คงต้องพึ่งช่างแล้วละครับ ใด้เรื่องอย่างไร เดี๋ยวจะมาบอกนะครับ
คุณ.vit314 ครับ รูปที่ให้ดูมันคืออะไรครับ แล้วมันอยู่ตรงใหนของรถครับ(ผมไม่รู้จริงๆ) ผมขอลองแก้ปัญหาเบื้องต้นดูก่อน มากกว่านี้คงต้องพึ่งช่างแล้วละครับ
ใด้เรื่องอย่างไร เดี๋ยวจะมาบอกนะครับ ข้อความโดย: vit314
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2013, 05:40:39 pm »""""ดู...check sw.pressure ของระบบแอร์ ก่อนครับ ทำไม fan step2 (hi-speed ยังทำงานดีเป่า)(ชอบจะเสีย...ซะด้วย เจอมาไม่น้อยกว่า สิบ คัน)
(แต่ก่อนก็ใช้มาได้...ไม่เห็นต้องแปลง)
...อ้อ...ถ้าแปลงมาแบบข้างต้น...ผมจับไว้ที่เดิม...แบบไม่ชอบ..ว่า
FAN HI เค้าจะstart กินไฟมาก...ในบางคัน ส่วนมากก็ LPG เป็นหลัก อาจจะส่วนผสม ผิด เล็กๆน้อย ...
เครื่อง..จะดับไปเลย..ไม่ถึงบ้าน...
...ไ่ม่แย้งใคร...เจอมาเอง...จึงขอเตือน
http://i220.photobucket.com/albums/dd290/vit31471005/MIXE410E1B0E250E010E460_zps39e5eae3.jpg
"""ย้ำ...ผม เอาออกหมด ให้เป็นแบบเดิมๆ.......อีกนิด...ผมมอง คนใช้รถ เป็นหลัก หวังว่าจาเข้าใจ???
อ้อ...แค่ออกความเห็น ไม่ได้ฟันธง....ที่เหลือเชิญท่านอื่น...
(แต่ก่อนก็ใช้มาได้...ไม่เห็นต้องแปลง)
...อ้อ...ถ้าแปลงมาแบบข้างต้น...ผมจับไว้ที่เดิม...แบบไม่ชอบ..ว่า
FAN HI เค้าจะstart กินไฟมาก...ในบางคัน ส่วนมากก็ LPG เป็นหลัก อาจจะส่วนผสม ผิด เล็กๆน้อย ...
เครื่อง..จะดับไปเลย..ไม่ถึงบ้าน...
...ไ่ม่แย้งใคร...เจอมาเอง...จึงขอเตือน
http://i220.photobucket.com/albums/dd290/vit31471005/MIXE410E1B0E250E010E460_zps39e5eae3.jpg
"""ย้ำ...ผม เอาออกหมด ให้เป็นแบบเดิมๆ.......อีกนิด...ผมมอง คนใช้รถ เป็นหลัก หวังว่าจาเข้าใจ???
อ้อ...แค่ออกความเห็น ไม่ได้ฟันธง....ที่เหลือเชิญท่านอื่น...
ข้อความโดย: t4 7798
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2013, 08:01:57 am »ขอบคุณ สำหรับความรู้ดีๆ จากคุณ.ช่างเหอะ
อีกเรื่อง... หลอดไฟคู่หน้า t4 ที่ได้มา... ตอนนี้ได้ทำการติดตั้งเข้าไปแล้ว... สว่างขึ้นดีจริงๆ
ขอบคุณครับ
อีกเรื่อง... หลอดไฟคู่หน้า t4 ที่ได้มา... ตอนนี้ได้ทำการติดตั้งเข้าไปแล้ว... สว่างขึ้นดีจริงๆ
ขอบคุณครับ