ุด้วยในวันเสาร์ที่ ๒ู๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ นี้ เค้าจะมีงาน Bus Only Show in Thailand เป็นงานโชว์รถงโฟลก์ตู้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น T1, T2, T3 และ T4 งานนี้จะจัดที่บริเวณตลาดสามย่านเก่าและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเซ็นเทนนารีปาร์ก ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน งานนี้สำหรับผู้สนใจเข้าชม ฟรีครับ แต่ถ้าจะขายของก็จะมีค่าใช้จ่าย แม่งานนี่เช้าใจว่าคุณต๋อน แห่งบ้านรถโฟล์ค ถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ คุณกบ ๐๘๙ ๗๗๓ ๑๗๔๕

ขออภัยที่แจ้งมากระชั้นชิด ผมเองก็เพิ่งทราบคับ

บอร์ดของพวกเราเงียบเหงามานานแล้ว ก็ไม่รู้สึกอะไร  แต่วันนี้ประกาศที่เราไม่อยากได้ยินยิ่งทำให้รู้สึกไม่อยากจะทำอะไร พยายามคิดว่าเป็นธรรมชาติ ทำใจแล้ว แต่น้ำตาก็ไหลไม่รู้ตัว ทุกท่านก็คงรู้สึกเหมือนๆ กับผม บอร์ดนี้คงจะเงียบเหงาต่อไปอีกอีกนาน ก็ไม่ว่ากันครับ ผมเองก็ไม่อยากจะคุยอะไรเท่าไหร่  ขอกราบพระบาท ในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านพระราชทานให้แก่พวกเรา พสกนิกรของพระองค์ ดีใจและภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ ๙ ครับ

www.vwwatercoolerclub.com ประกาศจัดงานมีทติ่งของชาวโฟล์ก (หรือรถเยอรมัน) ในวันที่ ๑๐ กันยายน ศกนี้ ระหว่าง ๑๕.๐๐ - ๒๒.๐๐ น. จัดงานที่ตลาดรวมทรัพย์ ๒  ค่าบัตรเข้างาน ๓๐๐ บาท (รถ + คนขับ) คนร่วมงานเพิ่มคนละ ๑๐๐ บาท รายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ในเว๊ปดังกล่าวครับ (ผมแค๊ปมาไม่เป็นอ่ะครับ ฮิ ฮิ) เพื่อนท่านใดสนใจก็เข้าไปลงชื่อได้เลยครับ เค้าว่าร้อยคนแรกจะมีของชำร่วยให้ด้วยครับ

เมื่อตอนที่เราจัดมีทติ้งกันเมื่อเดือนสิงหา ปี ๕๖ มีเพื่อนจาก VWC แวะมาเจอกันหลายท่านอยู่ งานนี้ผมก็ว่าจะไปร่วมงานกะเค้าบ้าง เผื่อจะได้ไอเดียมาจัดของโฟล์กไทยมั่ง

เห็นบอร์ดเงียบๆ ก็เลยมาเล่าให้ฟัง  เมื่อวานนี้ใช้รถ กดกระจกฝั่งที่เราขับลงเพื่อคุยกับคนข้างบ้าน พอกดกระจกขึ้นสุดมีเสียงแกร๊กตามมา รู้เลยว่าเสียตังค์แน่ ยังดีที่กระจกขึ้นสุดแล้ว ไม่อยากไปตอแยอีก เพราะรู้ว่าถ้ากดกระจกลงแล้วขึ้นยาก ก็จริงตามที่คิดพอใช้รถเสร็จก็ลองกดลง กระจกก็ลงดี แต่พอกดขึ้นพวกก็ดื้อซะงั้น ต้องเอาอีกมือดึงช่วยกระจกถึงขึ้น เช้านี้ก็เลยรีบไปหาเฮียมิ้งที่เอ็ม.เอ็ส.คาร์ล๊อก ช่างประจำ ไอ้เราก็บอกว่าสงสัยสายสลิงหลุดแบบที่เคยเป็น (ตอนนั้นตัวที่ย้ำปลายสายหลุด อาการเหมือนกันคือกระจกไม่ขึ้น) ช่างบอกคงไม่ใช่ พอถอดออกมาปรากฏว่าสายสลิงยังดี แต่เสียที่ตัวมอเตอร์ นึกว่าคงต้องเดือดร้อนวิ่งหาซื้อชุดรางกระจกใหม่ แต่ช่างบอกถ้าเป็นเมื่อก่อนใช่ แต่เดี๋ยวนี้ซ่อมแต่ตัวมอเตอร์ได้ ไม่งั้นต้องไปยกชุดมาสองพันก่า ช่างคิดแค่พันสี่ร้อยบาทก็เอาเลย แกะออกมาตัวจานเฟืองสีขาวขุ่นๆ หักที่ดุมกลาง อะไหล่ที่ช่างเอามาเปลี่ยนสีขาวจั้วยังกะทาครีมไว๊ท์เทนนิ่ง ก็เอาเถอะยังดีกว่าไปตะรอนๆ หาของแท้ของเก่า ทำแล้วลองแล้วใช้งานได้ดีเหมือนเดิมก ไฮไล้ท์อยู่อีตอนจ่ายตังค์ ผมก็ควักตังค์จะจ่ายเฮียแก แกแอบพูดค่อยๆ เอาแค่พันสองร้อยก็พอ ลูกค้าเก่า อย่าไปบอกอาซ้อล่ะอีชอบโวยวายเสียงดัง ว๊าว เล่นเอางงเหมือนกัน จำได้ว่าคราวก่อนที่มาทำสายสลิง แคย้ำตัวล๊อกปลายสาย เจ้แกซัดผมไปพันสอง จนเราเสียความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ทำแพง ทีนี้รู้แล้วดีลกะตัวเถ้าแก่ดีกว่า ฮิ ฮิ  เลยเก็บมาเล่าไว้ เผื่อเพื่อนๆ ที่เจออาการกระจกหน้าต่างทรยศอย่าเพิ่งผลีผลามให้เค้าจามให้ล่ะ เดี๋ยวนี้มันพอมีอะไหล่ที่ซ่อมได้แบบเพลงพี่เบิร์ดไง

วันนี้ ผมไปเจออู่ซ่อมโฟล์ก ออดี้ และเซียตอีกแห่งหนึ่งครับ เป็นอู่ที่ผมยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ช่างชื่อประมุข นัยว่าเปิดบริการมาแล้วเกือบ ๓ ปี (ไม่ทราบมีเพื่อนๆ เคยใช้บริการบ้างหรือเปล่า) เค้าเปิดอู่อยู่ในซอย ๑๐๗ แยก ๘ (น่าจะเป็นซอยเจริญกรุง ๑๐๗ นะเพราะอยู่ถนนเจริญกรุง ใกล้สี่แยกตัดกับถนนพระราม ๓ ถ้าวิ่งมาจากทางเอเซียทีค ซอยนี้จะอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นซอยสุดท้ายก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม ๓ (คิดว่าเป็นซอยวัดประดู่นะไม่ได้ผ่านแถวนั้นนานแล้ว) ถ้ามาจากสี่แยกไฟแดงตรงถนนตกต้องขับไปเอเซียทีคก่อนแล้วจะเจอปั้มแก๊สทางซ้ายมือบนถนนเจริญกรุง เราต้องเข้าไปกลับรถในปั้มแก๊สเพื่อจะย้อนกลับไปทางขวาและเลี้่ยวเข้าซอย ๑๐๗  เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ เมตร ซอยแยก ๘ อยู่ทางขวา อู่อยู่ใกล้ๆ ทางเข้า เป็นอู่เล็กๆ ช่างประมุททำอยู่คนเดียว มีที่จอดรถในอู่ไม่เกิน ๒ คัน เค้าบอกว่าให้โทรเข้าไปก่อน โทร. ๐๘๖-๘๘๓ ๓๗๗๔. ๐๘๙-๔๙๙ ๑๖๑๑ ช่างประมุขอัธยาศัยดีครับ นัยว่าเคยเป็นช่างของดีลเล่อร์โฟล์กมาก่อน ออกมาทำเองแบบเงียบๆ อย่างน้อยก็เก็บไว้เป็นข้อมูลนะครับเผื่อฉุกเฉินแถวๆ นั้น

สำหรับเพื่อนๆ สมาชิกบอร์ดโฟล์กไทยหลายๆ ท่าน ที่อาจจะลืม หรืออีกหลายๆ ท่านที่ยังไม่ทราบที่มาที่ไป เนื่องจากเว๊ปเก่า ได้ปิดตัวลงไปแล้ว ขออนุญาตฟื้นฝอยหาตะเข็บไว้เป็นข้อมูลหน่อยนะฮะ

ชมรมโฟล์กไทยนี้ เกิดจากการที่คุณอนุรัตน์ได้เข้าไปโพสกระทู้ เกี่ยวกับรถโฟล์กในห้องกลุ่มรัชดา ของพันทิพดอทคอม
หลังจากนั้นก็มีคุณพลจักร เข้ามาเสนอแนะให้ตั้งเป็นชมรม ผนวกกับคุณจุลเดชก็เสนอตัวสร้างเว๊ปขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมของนักเลงรถโฟล์กโดยเฉพาะ แล้วทั้ง ๓ ท่านก็โคจรมาเจอกันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งชมรม ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าจะยืนหยัด อยู่ยงคงกระพันมาจนถึงทุกวันนี้

วันเกิดอย่างเป็นทางการของชมรม VW Thai คือวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ที่จะเวียนมาครบรอบในอีกไม่กี่วันนี้แล้วครับ

Happy Birthday to VW Thai
ขอขอบคุณคุณอนุรัตน์ คุณพลจักร และคุณจุลเดช ที่ได้กรุณาริเริ่มชมรมนี้ให้เป็น เวทีหรือช่องทาง ให้พวกเราได้เข้ามาแบ่งปันความรู้เรื่องรถโฟล์กคู่ใจของเรา ถึงแม้ว่าผู้ริเริ่มก่อตั้งทั้งสามจะได้ถอยฉากไปแล้ว ก็ขอให้เพื่อนๆ สมาชิกช่วยกันประคับประคองให้ชมรมนี้สามารถคงอยู่ต่อไปได้นะครับ ชมรมรถที่มีอายุอานามมาได้ถึง ๑๗ ปีนี่ไม่ธรรมดานะครับ ว่าไม๊







็

แค่จะเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์นะครับ  วันนี้เองสดๆ ร้อนๆ ผมขับรถไปกับเพื่อน ๒ คน กลับจากทานข้าวเพราะเค้าไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนาน กำลังจะไปส่งที่บ้าน แวะเติมน้ำมันที่สี่พระยา เต็มถัง ธรรมดาผมเติม E20 แต่เพื่อนใจดีอยากตอบแทนชิงบอกเด็กว่าให้เติมพวกไนโตร 95 (เชลล์) ออกจากปั๊มก็ขับคุยกันมาเรื่อยๆ สังเกตุว่ามีกลิ่นเบ็นซินเข้ามาในรถตลอด มองดูกระจกข้าง เด็กปั๊มก็ปิดฝาเติมเรียบร้อยดี จากสี่พระยาขับข้ามสะพานสาทร มาลงถนนเจริญนคร ขับมาทางผ่านสี่แยกเชิงสะพานกรงเทพ เข้าราชบูรณะเลี้ยวเข้าถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อไปส่งบ้านเพื่อนที่แถวทุ่งครุ กลิ่นน้ำมันก็ยังไม่หาย ขับไปมองกระจกไปเผื่อมีเพื่อนร่วมทางจะมองรถเราหรือชี้ว่ามีอะไรผิดปกติ (แบบว่าไม่เปลวไฟหรือควันประมาณนั้น) ก็ไม่มีปฏิกริยาอะไร มีแต่กลิ่นในรถ ตอนจะใกล้เลี้ยวเข้าถนนซอยสุขสวัสดิ์ ๗๐ เจ้าแช่อิ่มของผมก็เริ่มออกอาการ วิ่งสะอึก เหมือนไม่มีแรง ฟอดเป็นบางขณะ พยายามนึกไปว่ามันน่าจะเป็นอะไรหว่า ทีแรกคิดว่าครัชลื่น สงสัยเติมน้ำมันที่แรงกว่าของเดิมมั๊ง เลยพยศ ผลสุดท้ายเห็นท่าจะวิ่งไม่ไหวเลยจอดแอบกลางซอย เปิดฝากระโปรงดู โอ๊ยโหย๋ นอกจากกลิ่นน้ำมันหึ่งแล้วยังมีสายน้ำมันฉีดกระฉูดขึ้นมาแถวๆ กระปุกน้ำมันเบรกอีกด้วย วิ่งไปดับเครื่องแทบไม่ทัน ก้มดูใกล้ถึงเห็นว่าสายท่อน้ำมันที่เป็นสายยางต่อจากท่อไนล่อนแข็งมาจากถังน้ำมันด้านหลัง มันฉีกขาดแถวๆ เข็มขัดรัดตรงปลาย โอ้แม่จ้าว โชคดีมากๆ นึกถึงระยะทางที่ขับผ่านมาจากสี่พระยามาจนถึงกลางซอยสุขสวัสดิ์ ๗๐ ผมรอดจากไฟไหม้มาได้อย่างไร นึกแล้วสยองจริงๆ ครับ  บริเวณที่น้ำมันฉีดพุ่งนั้นมีแต่ของร้อนๆ ทั้งนั้น ไหนจะแดดร้อน อากาศไม่ต้องบอกร้อนมากๆ ในห้องเครื่องก็มีทั้งแนวหัวเทียน ข้างล่างก็มีท่อไปเสีย หูยนึกแล้วหนาวเลย อันที่จริงสายน้ำมันตรงนี้ (มีสองสายคู่กัน เส้นนึงเป็นสายน้ำมันเข้าหัวฉีด อีกเส้นไปสายไหลกลับ มีกล่องสี่เหลี่ยมยาวๆ บังอยู่) ผมก็ไม่ละเลยที่จะดูบ่อยนะครับ แต่มันก็ไม่มีท่าทีที่จะบอกว่ามันแก่แล้ว ตั้งใจว่าจะไปหาซื้อสายท่อยางมาทิ้งสำรองไว้ในรถ แต่จนแล้วจนรอดก็ลืมทุกที และแล้ววันนี้่ก็มาถึง โทรปรึกษาช่างแล้วต้องหาสายมาเปลี่ยน เลยจ้างแท๊กซี่ลากไปจอดไว้ที่บ้านเพื่อนก่อนกะว่าพรุ่งนี้ค่อยไปหาซื้อแถววรจักรมาเปลี่ยน บังเอิญน้องเพื่อนเค้ามีสายน้ำมันติดบ้านเลยกรุณาจัดการช่วยเปลี่ยนให้เลย (เค้าเป็นนายพลโทนะครับ แต่เก่งจริงๆ ท่านมีความสามารถมาก ทำได้่หมด มีเครื่องมือครบ ผมถามว่าทักษะนี้เพราะความชอบหรือไร ท่านบอกว่าโรงเรียนเตรียมทหารสอนมา งงเลยครับ) แต่ก็อยากเก็บเอาประสบการณ์วันนี้มาเล่าไว้ เพื่อเพื่อนๆ จะได้เริ่มมองว่าของมันเริ่มมีอาการหรือยัง คิดว่าถ้าสายยางมันเริ่มแข็งก็หาเปลี่ยนซะเถอะครับ ค่าท่อยางถูกกว่ารถไฟไหม้เยอะครับ