การที่พัดลมติดEดับE เป็นอาการเริ่มแรกของพัดลมพังครับ ถ้าจะรื้อออกมาจริงE แนะนำว่าเปลี่ยนตัวใหม่จะคุ้มกว่า เพราะรื้อยากมาก ตามบทความข้างล่างนีE ซึ่งเตรียมไวE Update Homepage เวลาคุณอนุรัตนE่าง นะครับ
เปลี่ยนพัดลมไฟฟ้า
เมื่อเปิดฝากระโปรงห้องเครื่องของ กอลE/เวนโตE แล้วยืนมองเข้าไปจากด้านหน้ารถ ก็จะพบใบพัดลม 2 ชุดอยู่หลังหม้อน้ำ ซึ่งมันเป็นอุปกรณEลักในการดูดลมจากภายนอก ให้เป่าผ่านแผงระบายความร้อนของระบบปรับอากาศ ( ต่อไปจะเรียกสั้นEว่า คอนเด็นเซอรEอรE) และเป่าผ่านหม้อน้ำเข้ามาในห้องเครื่อง เพื่อเป็นการระบายเอาความร้อนทิ้งออกไปจากระบบ หากสังเกตุดีE ก็จะพบว่าเฉพาะใบพัดชุดด้านขวาเท่านั้นที่มีมอเตอรEิดอยูE ส่วนชุดด้านซ้ายเป็นใบพัดเปล่าE แต่มีสายพานขนาดกEยเตีEวเส้นเล็กคล้องเอาไว้กับแกนของใบพัดชุดด้านขวา เมื่อมอเตอรEมุน นอกจากจะทำให้ใบพัดชุดด้านขวาหมุนแล้ว มันก็ยังจะฉุดให้ใบพัดชุดด้านซ้ายหมุนตามไปด้วย
มอเตอรEองพัดลมชุดด้านขวาจะทำงาน 2 จังหวะ สั่งการผ่านสายไฟที่เสียบก้นมอเตอรE ซึ่งถ้าลองดึงออกมาดูจะเห็นว่ามีสามขั้ว จังหวะทีE1 จะหมุนที่ความเร็วรอบปกติ ส่วนจังหวะทีE2 จะหมุนเร็วจีE เกือบสองเท่าของจังหวะทีE1 ทำให้เกิดเสียงดังมากจนบางครั้งเวลารถติดไฟแดง มอเตอรEซคEวัญอ่อนที่จอดติดอยู่ข้างEถึงกับทำท่าตกใจ อุปกรณEี่จะสั่งให้มอเตอรEัดลมไฟฟ้าไม่หมุนหรือหมุนในจังหวะใดนั้น มีดังต่อไปนีE
1.) สวิทชEม้อน้ำ หากยืนหันหน้าเข้าห้องเครื่อง สวิทชEี้จะอยู่ที่มุมบนขวาของหม้อน้ำ มีขั้วสายไฟที่เป็นเส้นเดียวกันกับที่จะต่อไปยังก้นมอเตอรE เสียบครอบเอาไวE หากลองดึงออกมาดูก็จะพบว่ามี 3 ขั้วเช่นเดียวกัน ให้จำขั้วสายไฟที่ตำแหน่งสวิทชEม้อน้ำนี้ไว้ดีE เพราะเราจะใช้มันเป็นจุดทดสอบการทำงานของมอเตอรEัดลม ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามันชำรุดแล้วหรือไมE สำหรับหน้าที่การทำงานของสวิทชEม้อน้ำก็คือ มันจะโผล่หัวเข้าไปวัดอุณหภูมิของน้ำในหม้อน้ำระบายความร้อน เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียสมันจะปิดพัดลม เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 70 องศาเซลเซียส มันก็จะสั่งเปิดพัดลมในจังหวะ 1 แต่ถ้าอุณหภูมิยังสูงขึ้นไปเรื่อยEอีกจนเกิน 90 องศาเซลเซียส มันก็จะสั่งเปิดพัดลมในจังหวะ 2
2.) สวิทชEรงดันน้ำยาของระบบปรับอากาศ สวิทชEันนี้จะเสียบติดอยู่กับกรองไดรเออรE ซึ่งจะหายากหน่อยเพราะกรองไดรเออรEันหลบอยู่ในกันชนหน้าค่อนออกมาทางด้านซ้าย ( มองจากด้านหน้าเข้าหาตัวรถ ) ต้องถอดกันชนออกมาก่อนจึงจะเห็นได้ชัด สวิทชEันนี้มีสายไฟเสียบครอบไว้คล้ายEกับสวิทชEม้อน้ำ หน้าที่การทำงานของมันก็คือ มันจะโผล่หัวเข้าไปในกระปุกไดรเออรEพื่อวัดแรงดัน เมื่อแรงดันน้ำยาของระบบปรับอากาศต่ำกว่า 12.5 บารE มันจะปิดพัดลม เมื่อแรงดันน้ำยาสูงถึง 12.5 บารEมันจะเปิดพัดลมจังหวะ 1 แต่เมื่อแรงดันน้ำยายังสูงขึ้นไปเรื่อยEจนถึง 16 บารE มันจะเปิดพัดลมจังหวะ 2
จะเห็นได้ว่าสวิทชEม้อน้ำ และสวิทชEรงดันน้ำยาแอรE คอยเจ้ากี้เจ้าการเปิดปิดพัดลมให้ในจังหวะต่างEซึ่งถ้าหากพัดลมและสวิทชEั้งสองตัวนี้อยู่ในสภาพสมบูรณE ระบบมันก็จะรักษาอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นได้คงทีE ไมE Over Heat ในขณะที่แรงดันน้ำยาแอรE็จะอยู่ในช่วงเหมาะสม ทำให้แอรEย็นฉ่ำ ไม่ว่ารถจะวิ่งช้า E ติดเป็นตังเม อยู่ในเมือง หรือควบด้วยความเร็วสูงอยู่บน Highway ( ในกรณีหลังนี้จะมีกระแสลมจากภายนอกช่วยเป่าเข้าจากด้านหน้ารถ ) ทั้งหมดนี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ เจ้าของไม่ต้องไปยุ่งแต่อย่างใด
แต่โชคไม่ดีที่มอเตอรEัดลมนั้นมีอายุการใช้งาน กล่าวคือมอเตอรEันใหม่ๆ นั้นมันจะหมุนแรง ดูดลม ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะ 2 ) มีเสียงดังอย่างกับกังหันอัดอากาศของเครื่องยนตE Gas Turbine ที่ใช้ในเครื่องบิน 737-400 ลำที่นายกทักษิณขึ้นไปเชียงใหม่ไม่ทัน แต่พอใช้ไปเรื่อยE นานเข้าE เรี่ยวแรงมันก็อ่อนล้าลงเหมือนคนแกE จนเมื่อถึงอายุขัย มันก็ขาดใจไม่หมุนเอาเสียดื้อE เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเปลี่ยนพัดลมอันใหมE เพราะมอเตอรEัวนี้เป็นกำลังหลักแต่เพียงอย่างเดียวในการดูดลมระบายความร้อน ห้ามชำรุดเสียหายเด็ดขาด และที่โชคไม่ดียิ่งไปกว่านั้นก็คือการถอดเอาพัดลมอันเก่าออกมาเพื่อที่จะเปลี่ยนใส่พัดลมอันใหม่นั้น มันช่างยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ ( อ่านไปเรื่อยE แล้วจะตกใจเอง ) ส่วนอายุขัยของพัดลมนั้นก็เป็นที่น่าสงสัยมาก ตัวอย่างเช่นของติดรถคุณอนุรัตนEิ่งมาตั้ง 180,000 กม. แล้วยังเฉยE ส่วนของติดรถผม ตัวแรกขาดใจไปทีE92,000 กม. พอเปลี่ยนเป็นตัวที่สอง กะว่าจะใช้แบบสบายEไปสักอีกอย่างน้อย 80,000 กม. พอเอาเข้าจริงแคE 25,000 กม. ก็มาบอกศาลากันเสียแล้ว ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตัวที่สาม ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปได้เท่ากับตัวแรกหรือตัวที่สอง
ขั้นตอนการถอดเปลี่ยนพัดลมที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนีE เจตนาเพียงเพื่อให้เห็นภาพโดยรวมว่า การถอดเปลี่ยนพัดลมนั้นเราจะต้องผจญกรรมอะไรบ้าง ในกรณีที่ไม่ได้ลงมือเองก็จะได้ทำใจไว้ก่อนและจะได้เข้าใจว่าช่างกำลังทำอะไร ในกรณีที่ใจถึงอยากทำเอง ก็จะได้เตรียมกำลังพลเอาไว้คอยช่วยเหลือ ตลอดจนเครื่องมือ และอุปกรณE ให้พอเพียง
อุปสรรคประการสำคัญในการถอดเปลี่ยนพัดลมสำหรับรถ กอลE/เวนโตEรุ่นนี้ก็คือ มันถูกออกแบบขายึดมอเตอรEอาไว้เพื่อให้ถอดพัดลมออกได้จากด้านหน้าเท่านั้น จะด้วยเหตุผลอะไรผมก็จนด้วยเกล้าเหมือนกัน นี่ถ้าใครหาทางดัดแปลงขายึดมอเตอรEห้สามารถถอดออกได้จากด้านหลัง ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาซ่อมรถ VW ติดกันถึง 2 งวดซ้อน เพราะมันจะทำให้กลายเป็นงานง่ายชนิดที่โน้ตกับตูนบอกว่าเป็นเรื่องสิวE แต่เอาละ เมื่อฝรั่งมันทำชุ่ยมาอย่างนีE ช่าง DIY อย่างหมู่เฮาถึงกับจะซ่อมไม่ได้เลยก็ให้มันรู้ไป
ความที่พัดลมจะต้องดูดลมผ่านหม้อน้ำและคอนเด็นเซอรEอรE ทำให้หม้อน้ำและคอนเด็นเซอรEอรEันจะต้องวางเรียงซ้อนกัน บังอยู่หน้ากระโจมของใบพัดลม โดยถ้ามองจากกระจังหน้ารถเข้าไป เราจะเห็นคอนเด็นเซอรEอรE่อนชั้นหนึ่ง จากนั้นถัดเข้าไปจึงเป็นหม้อน้ำ แล้วจึงจะถึงกระโจมของใบพัดลม ในหนังสือคู่มือซ่อมรถของ Bentley ถึงกับแนะนำว่าให้ถอดแผงคอนเด็นเซอรEอรEและหม้อน้ำออกก่อน แล้วค่อยถอดพัดลม แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือถ้าจะถอดแผงคอนเด็นเซอรEอรE ก็จะต้องถ่ายน้ำยาแอรEอกมาทั้งหมด ซึ่งการเติมกลับเข้าไปจะต้องทำที่ร้านซ่อมแอรEละเสียค่าใช้จ่ายหลายตังคE ( เรียกว่าซ่อมพัดลมแถมซ่อมแอรEรี ) มิหนำซ้ำการที่อยู่ดีEแล้วจะต้องไปซ่อมแอรEั้น ก็อาจจะติดโรคอะไรให้ต้องซ่อมอย่างอื่นEแถมมาอีกก็เป็นไดE สำหรับการถอดหม้อน้ำนั้นต้องถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกมาบางส่วน แต่อันนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะเราเติมกลับได้เองง่ายE ราคาไม่กี่ตังคE
ดังนั้นเราจึงวางแผนที่จะถอดเฉพาะหม้อน้ำ และยอมถ่ายน้ำยาหล่อเย็นบางส่วน จากนั้นเราจะหาทางขยับให้แผงคอนเด็นเซอรEอรEอ้าออกมาทางด้านหน้ารถ เพื่อสร้างช่องทางสวรรคE เนื่องจากท่อน้ำยาแอรEส้นบน ซึ่งต่อจากระบบมายังคอนเดนเซอรEป็นสายอ่อน พอที่จะให้ตัวได้บ้าง เมื่อแผงคอนเด็นเซอรEอรE อ้าออกมาจากกระโจมใบพัดลมจนเป็นช่องกว้างพอ เราก็จะถอดมอเตอรEัดลมพร้อมใบพัด แล้วล้วงออกมาทางด้านล่างโดยผ่านช่องทางสวรรคEีE จากนั้นก็เอามอเตอรEัดลมตัวใหม่ยัดกลับเข้าไปติดตั้งด้วยวิธีเดียวกัน ตามขั้นตอนคร่าวE ดังต่อไปนีE
1.) ถอดกระจังหน้าด้วยไขควงปากแบนอันเล็กE ปลดคลิปล็อค
2.) ถอดชุดไฟเลี้ยวในกันชน พร้อมแผงสะท้อนแสง ถอดหลอดออกมาเก็บ กันแตก
3.) ถอดกันชน ซึงยึดกับคานหน้าด้วยสกรูวEบอรE10 และยึดกับซุ้มล้อหน้าด้วยหมุดพลาสติค ข้างละ 2 ตัว ถ้าไม่เคยถอดเลย อาจต้องใช้ผู้ช่วย ช่วยกันอุ้มออกมา
4.) ถอดโคมไฟหน้าทั้งสองข้าง ซึ่งยึดด้วยสกรูวEบอรE8 ข้างละ 4 ตัว
5.) ถอดแผงหิ้วคานหน้า ซึ่งเกี่ยวเอาไว้กับช่องล็อคฝากระโปรงด้านบนห้องเครื่อง
6.) ถอดคานหน้า
มาถึงขั้นนีE ด้านหน้ารถจะเปลือยเปล่าและเราจะมองเห็นแผงไฟเบอรEลาสที่ใช้หิ้วชุดกระโจมลม หม้อน้ำ และคอนเด็นเซอรEอรE ซึ่งโดยปกติมันจะยึดติดกับคานหน้าและมีความแข็งแรงในตัวเอง แต่ในสภาพที่คานหน้าถูกถอดออกไปก่อนแล้ว แผงนี้จะให้ตัวเด้งดึEEได้เล็กน้อย จากนั้นเราจะเริ่มถอดส่วนประกอบในกระโจมลมและคลายน็อตที่ยึดมอเตอรEัดลมให้หลวมเตรียมเอาไว้ก่อน
7.) ถอดสลักพลาสติคของแผ่นปิดกระโจมลมด้านหน้าใบพัด ซึ่งเป็นหมุดพลาสติค และคลายน็อตยึดมอเตอรEัดลมพร้อมปลดสายออกจากก้นพัดลม
8.) ถอดสกรูวEึดแผงคอนเด็นเซอรEอรE และให้สังเกตุท่อที่วิ่งเข้ามาเสียบ ซึ่งจะมี 2 ท่อที่มุมขวาบน เป็นสายอ่อน และมุมซ้ายล่าง เป็นท่อแข็ง ไปที่กรองไดรเออรE แต่ท่อที่ต่อออกไปจากกรองไดรเออรEีกด้านหนึ่งนั้นเป็นสายอ่อน ให้ถอดน็อตยึดกรองไดรเออรEอกจากขายึด เพื่อให้ขยับตัวไปได้อย่างปลอดภัยพร้อมกับแผงคอนเด็นเซอรEากมีการเคลื่อนไหว
9.) เลื่อยแผงไฟเบอรEี่มุมล่างซ้าย ในตำแหน่งที่ท่อแข็งซึ่งจะต่อเข้ากรองไดรเออรEอดทะลุออกมา ให้ขาดออกทางด้านล่าง กว้างประมาณ 1 นิ้ว เพื่อให้โยกท่อหลบออกมาทางด้านล่างไดE และเลื่อยแผงไฟเบอรEี่มุมขวาบนในตำแหน่งที่ท่ออ่อนสอดทะลุออกมา ให้ขาดเป็นช่องยาวออกมาทางซ้ายประมาณ 2 นิ้ว และให้กว้างเท่ากับช่องเดิม
10.) จากนั้นให้ทดลองค่อยEขยับแผงคอนเด็นเซอรEละกรองไดรเออรEดยโยกให้ท่อแข็งหลบออกมาทางด้านล่างของแผงไฟเบอรE และให้ท่ออ่อนมุมบนขวา เลื่อนตามออกมาทางด้านซ้ายในช่องที่เลื่อยเพิ่ม หากทำได้สำเร็จ จะได้พื้นที่ด้านล่างหลังแผงคอนเด็นเซอรEว้างออกมาประมาณ 5 นิ้ว เปรียบประดุจช่องทางสวรรคE
11.) ถอดท่อน้ำเส้นบนและล่างของหม้อน้ำ ซึ่งเป็นแหวนรัดสปริง ใช้คีมบีบคลายล็อคแล้วค่อยEรูดท่อยางออกมา ( ค่อนข้างยาก เพราะพื้นที่ทำงานจำกัด ) เมื่อถอดออกมาไดE ก็จะมีน้ำยาหล่อเย็นไหลออกมาเลอะเทอะประมาณ 2 ลิตร
12.) ถอดสกรูวEึดหม้อน้ำ จากนั้นหม้อน้ำก็จะเป็นอิสระจากโครงไฟเบอรEลาส ให้ใช้ผู้ช่วยง้างแผงคอนเด็นเซอรEอรEอาไว้เหมือนขั้นตอนทีE10 แล้วล้วงเอาหม้อน้ำผ่านช่องทางสวรรคEอกมาจากด้านล่าง
13.) ปลดสายพานกEยเตีEวเส้นเล็ก แล้วจึงถอดแผ่นปิดกระโจมลมด้านหน้าใบพัด แล้วล้วงผ่านช่องทางสวรรคEอกมาจากด้านล่าง
14.) ถอดมอเตอรEัดลมออกจากขายึดด้านหลัง ซึ่งได้คลายเกลียวเอาไว้รอแล้ว และเช่นเดียวกับขั้นตอนทีE12 คือต้องให้ผู้ช่วยง้างแผงคอนเด็นเซอรEอรEอาไวE แล้วล้วงมอเตอรEัดลมพร้อมใบพัดผ่านช่องทางสวรรคEอกมาจากด้านล่าง ซึ่งถ้าทำสำเร็จ ท่านก็จะทราบซึ้งถึงความรู้สึกของสัตวEพทยEี่ช่วยทำคลอดลูกวัวซึ่งทารกคลอดในท่าผลาดแผลง
มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเหนื่อยก็แนะนำให้พักไปกินข้าวผัด ใส่ไข่ดาวทอดกรอบE ตบท้ายด้วยโอเลี้ยงสักแก้วแล้วค่อยกลับมาผจญกรรมกันต่อ ขั้นตอนที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นการประกอบกลับ ซึ่งถ้าหากมีเวลาก็ควรล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างE โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครีบระบายความร้อนของหม้อน้ำ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่สามารถถอดออกมาทำได้อย่างสะดวกนอกตัวรถ
15.) เอาพัดลมตัวใหม่ประกอบกลับผ่านช่องทางสวรรคEข้าไป ย้อนรอยขั้นตอนทีE14 พร้อมกับยึดน็อตที่ขามอเตอรEห้แน่นหนา
16.) คล้องสายพานกEยเตีEวเส้นเล็ก และประกอบแผ่นปิดกระโจมลม ย้อนรอยขั้นตอนทีE13 และขั้นตอนทีE7 จากนั้นก่อนประกอบชิ้นส่วนที่เหลือ ให้ทดลองว่าพัดลมตัวใหม่ทำงานได้ดีหรือไมEโดยการเสียบขั้วสายไฟที่ก้นมอเตอรE แล้วจัEพEั้วสายทีE 1 กับ 3 ของสวิทชEม้อน้ำ ซึ่งพัดลมตัวใหม่มันควรจะทำงานอย่างขยันขันแข็งในจังหวะ 1 และถ้าจะทดลองในจังหวะ 2 ก็ให้จัEพEั้วทีE 2 กับ 3 ของขั้วสายสวิทชEม้อน้ำ ถ้าจะให้แน่ใจยิ่งขึ้น ก็ให้ถอดขั้วสายจาก สวิทชEรงดันน้ำยาของระบบปรับอากาศ ที่เสียบติดกับกรองไดรเออรE แล้วเอามาจัEพEั้วทีE 1 กับ 3 ในจังหวะ 1 และขั้วทีE2 กับ 4 ในจังหวะ 2 ซึ่งหวังว่าคงจะไม่มีปัญหานะครับ
17.) ประกอบชุดหม้อน้ำ ย้อนรอยขั้นตอนทีE12 และ 11
18.) ขยับแผงคอนเดนเซอรEอรEข้าที่เดิมและยึดให้แน่น พร้อมกับยึดกรองไดรเออรEข้ากับขายึด เป็นการปิดผนึกช่องทางสวรรคE ( หวังว่าคงจะไม่ต้องเปิดกันบ่อยEนะ สงสารเถอะ ) เป็นการย้อนรอยขั้นตอนทีE10 , 9 และ 8
19.) ส่วนการย้อนรอยขั้นตอนทีE6 , 5 , 4 , 3 , 2 และ 1 นั้น ถือว่าเป็นเรื่องหมูมาก เมื่อเทียบกับการรื้อออกมา จะมี Trick เล็กน้อยตอนประกอบคานหน้า ที่จะต้องร้อยสกรูวEลวมE ให้ครบทุกตัวก่อนแล้วค่อยEขยับหาตำแหน่งที่เหมาะสม จึงจะสามารถขันแน่นทุกตัวได้โดยไม่ติดขัด
30 พ.ค. 2544 , 22:46:16 น