ช่วงปิดสงกรานตEลายวัน ผมก็มีโอกาสพาเต่าไปเคาะสนิมเสียที หลังจากที่ไม่ได้เดินทางต่างจังหวัดนานแล้ว
คราวนี้ผมไปเขาสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธEรับ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหรEเรียกว่าขับเต่าไปได้สบายมาก
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันผมถ่ายน้ำมันเครื่องเพราะมันใกล้กำหนดแล้ว ถ่ายใหม่ไปเลยก็คงไม่เป็นไร เซฟไว้ก่อน
ออกเดินทางเช้าวันทีE14 เมษายน (จดเลขระยะทางไวE33439) กะว่าคงไม่ค่อยมีรถออเที่ยวกัน แต่ผิดคาดครับ วันนี้ยังมีรถออกจากกรุงเทพหลายคัน
ช่วงระหว่างกรุงเทพ-เพชรบุรี รถค่อนข้างเยอะ แต่เลยจากเพชรบุรีไปแล้ว ทางโล่งเลยครับ คาดว่าคงแวะชะอำกันหมด
ผมใช้ความเร็ว 90-100 ตลอดทาง ไปเรื่อย Eครับ ขับรถสบายไม่ง่วงนอนเพราะว่ามีคนรู้ใจคอยเจื้อยแจ้วอยู่เบาะข้าง Eส่วนเบาะหลัง สัมภาระล้วน Eทั้งเปEเตEทEหม้อ กะทะ อาหาร ฯลฯ
วิ่งไป 180 กิโลเมตร ผมแวะเติมน้ำมัน 300 บาท (ลิตรละ 16.02 บาท) ได้พักคลายเมื่อยและกินข้าวเช้าด้วย
ก่อนเข้าตัวเมืองปราณบุรี จะมีทางแยกซ้ายมือไปอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด (มีทางเข้าอีกทาง เลยเข้าเมืองไปอีกหน่อย) ขับรถไปอีก 23 กิโล จะถึงด่านเก็บเงินก่อนเข้าเขตอุทยาน ค่ารถ 50บาท ค่าคน คนละ 5 บาท เจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามาดูกันใหญEคงไม่ค่อยมีรถเต่าเข้ามาเที่ยวมั้ง
ที่แรกที่ผมไปคือถ้ำไทร เพราะมาที่นี่สองครั้งแล้วยังไม่เคยไปเลย ถ้ำไทรจะเลยทางเข้าบ้านบางปู หาดแหลมศาลาไปอีก 5 กิโลเมตร อากาศร้อนมากครับ แดดก็แรงจัดจ้า
ปากทางขึ้นถ้ำไทรจะอยู่ริมทะเล เดินขึ้นเขาไปประมาณ 280 เมตร เหนื่อยแทบแย่แน่ะครับ คงเป็นเพราะสังขารเริ่มไม่ไหวแล้ว และตอนนั้นตะวันตรงหัวพอดี
ถ้ำไทรเป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็ก มีจุดเด่นตรงด้านในสุดของถ้ำจะมีโพรงเหนือเพดานถ้ำ มีแสงลอดลงมาเป็นลำ กระทบกับหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ สวยมากครับ ตอนนั้นผมลืมหยิบไฟฉายขึ้นไปเลยไม่ได้สำรวจอะไรมาก มีคนขึ้นมาเรื่อย Eเป็นระยะ ส่วนใหญ่จะหอบแฮ่ก Eขึ้นมา เพราะทางขึ้นค่อนข้างชัน ขาลงเจอคนกลางทาง หลายคนจะถามว่า "ใกล้ถึงรึยัง"
เมื่อลงมาถึงด้านล่าง ผมรี่ไปยังร้านขายน้ำเลยครับ ทั้งร้อนทั้งกระหายน้ำ
ออกจากถ้ำไทรผมย้อนกลับมายังทางเข้าหาดแหลมศาลา การเข้าไปยังหาดแหลมศาลามีสองทางครับ คือนั่งเรืออ้อมแหลมไป เที่ยวละ 200 บาท และ เดินข้ามเขาไป 530 เมตร ไม่เสียตังคEผมหันไปถามหญิงสาวว่าต้องการแบบไหน เธอบอกว่า ขอเดินข้าม ผมก็ตามใจ เพราะเดินข้ามเขาไหวอยู่แล้ว แวะนั่งพักเหนื่อยจนเย็นใจเย็นกายแล้วผมก็จัดแจงฝากรถกับร้านค้าเชิงทางขึ้นเขา 50 บาทครับ จอดไว้กี่วันก็ไดE(เป็นห่วงรถเหมือนกัน แต่ผมข้ามไปนอนแค่สองวัน) เสร็จแล้วก็จัดแจงของขึ้นหลัง แบกเป้คนละใบ เตEทEละกระเปEกล้อง ใช้เวลาเดินราวยี่สิบนาที ถึงทางลงก็พบกับป้าย "สุขภาพท่านยังดีอยูE ตั้งหราตรงหน้า สุขภาพยังดี แต่เหนื่อยลิ้นห้อยเลยครับ เพราะเป้หนักมาก สิบกว่ากิโลได้มั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นกระปEงของกิน หญิงสาวที่อยากเดินหน้าซีดแทบเป็นลมเหมือนกัน
จากนั้นไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอกางเตEทEคนละ 20 บาท เมื่อสามปีก่อน คนละ 5 บาทเองครับ
เมื่อหาทำเลกางเตEทEด้แล้วก็ลงมือทำอาหารกันเลย เพราะหิวซ่กแล้วครับ
คนที่กางเตEทEอนที่นี่ไม่ค่อยพลุกพล่าน มีเพียง 7-8 เต็นทEท่านั้น ลมริมหาดเย็นดีครับ
คืนแรกที่นีEไม่ค่อยสวยงามนัก เนื่องจากวันนั้นมีหัวหน้าหน่วยของกรมป่าไม้จากส่วนกลางพาพรรคพวกครอบครัวราวยี่สิบคนมานอนที่บ้านพักริมหาด ถ้ามานอนมาเที่ยวเฉย Eก็ไม่มีปัญหาครับ แต่นี่เขา (มัน) เล่นต่อเครื่องขยายเสียงร้องเพลงคาราโอเกะดังลั่นหาดทั้งคืน ราวกับงานวัด คนอื่น Eที่มาเที่ยวต้องการความสงบต่างส่ายหน้าด้วยความระอาในการกระทำของเขาเหล่านั้น พวกที่ได้ชื่อว่าข้าราชการกรมป่าไม้เองกลับกระทำผิดพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ในข้อ ห้ามส่งเสียงอื้อฉาวหรือใช้เครื่องขยายเสียง อันก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น ซึ่ง คนธรรมดาอย่างเรา Eพยายามที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับทุกอย่างแล้ว สำนึกพื้นฐานคือการเคารพต่อสถานที่มันยังไม่มีเลยครับ ฉะนั้นป่าไม้เมืองไทยที่ป่นปี้วอดวายก็เพราะข้าราชการไร้สำนึกเช่นนี้แหละครับ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามีแทรกแฝงอยู่อีกมากมายเท่าไหรE
เฮ้อ อดบ่นยืดยาวไม่ได้ครับ ผมแอบถ่ายรูปมันมาด้วยครับ แล้วจะเอามาลงประจานคราวหลัง
วันต่อมา พวกนั้นก็ยกทัพกลับไป หาดแหลมศาลาคืนสู่ความสงบอีกครั้ง หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ผมเดินไปตามทางเลียบเขา เจอค่างแว่นถิ่นใต้ฝูงใหญ่เลยครับ นาน Eจะได้เห็นที
วันนี้คนเริ่มทยอยกลับ เหลือเตEทEิมหาด
อยู่สามเตEทEท่านั้น
แต่ยังมีคนมาเที่ยวแบเช้ามาเย็นกลับอยู่บ้าง ไฮไลตEองวันนี้คือมีฝรั่งหลายสิบคนข้ามมาอาบแดด และเล่นน้ำ กระจายตัวกันเต็มหาดเลยครับ ผมได้แต่ดูอยู่ห่าง Eเพราะหญิงสาวข้าง Eค้อนตากลับ
ตอนกลางคืน เงียบและมืดมากครับ มองไปทางทะเลเห็นแสงไฟสีเขียวจากเรือจับปลาหมึกเรียงตัวยาวไปตามเส้นขอบฟ้า สวยดีครับ พระจันทรEึ้นช้า (ตีหนึ่งกว่าแน่ะถึงได้เห็นพระจันทรE เป็นจันทรE้างแรมและมีสีแดงช้ำ Eดูเหงา E
วันต่อมาผมออกจากแหลมศาลา เดินกลับข้ามเขาอีกครั้ง
รถเต่ายังคงจอดอยู่ที่เดิม แต่ใบสนทะเล หล่นใส่รถเต็มเลยครับไม่มีปัญหาอะไร ออกจากแหลมศาลา บ้านบางปู ผมขับรถเรื่อย Eดูนกหลายชนิดตามทุ่งน้ำและริมทาง บางแห่งมีการทำนากุ้งรุกล้ำที่อุทยานแห่งชาติ บางแห่งน้ำเน่าเสีย เห็นปลาเล็กปลาน้อยตายเกลื่อนมีนกหลายตัวมาจิกกิน ปลาที่ยังไม่ตายต่างกระเสือกกระสนหาน้ำดีและอากาศดีเพื่อมีชีวิตรอด แต่ท่าทางจะรอดยากครับ
ผมแวะที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อยู่ตรงข้ามกับจุดชมวิวเขาแดง (ซึ่งผมไม่ได้ขึ้นไป)
ตรงที่ทำการฯจะมีลิงแสมเยอะมากครับ ต้องขับรถช้า Eอีกอย่างคือทางไม่ดีด้วย เด้งไปเด้งมา ระยะทางกว่าสิบกิโลเลยครับ ผมเลยจากที่ทำการฯไปทางกิ่งอำเภอสามร้อยยอด ทำให้ต้องย้อนกลับมาทางปราณบุรีอีกเกือบสามสิบกิโล
คืนนั้นแวะนอนที่หัวหินหนึ่งคืน เจอออสตินมินิ สองสามคันวิ่งผ่านเข้ากรุงเทพ คงเป็นกลุ่มเดียวกับที่คุณอูE เต่าเหลืองเจอ
ขากลับ ขับรถแวะพักที่เพชรบุรี กะว่าจะดูวัดเก่า Eที่นี่ซะหน่อย แต่ทนอากาศร้อนไม่ไหวครับ อกกจากเพชรบุรีขับรถรวดเดียวถึงกรุงเทพเลยครับ
อ้อ แวะเติมน้ำมันที่สมุทรสาครครั้งนึง
ถึงบ้าน เลขบอกระยะทาง 34095
รถยังดีอยู่ครับ แต่เครื่องร้อนฉ่าเลย
[ 20 เม.ย. 2544 , 17:02:17 น